วันที่ 23 ธันวาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดพังงา เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร และตรวจเยี่ยมโครงการ “คาราวานพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน” พร้อมด้วย นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่โรงเรียนอ่าวกะพ้อ อ.เกาะยาว จ.พังงา
มีประชาชนและนักเรียนมารอรับ นายจุรินทร์ เป็นจำนวนมาก ต่างดีใจที่ นายจุรินทร์ ลงพื้นที่มาพบได้พูดคุยอย่างเป็นกันเอง บรรยากาศสุดคึกคักและได้มีเด็กนักเรียนที่มาให้กำลังใจพูดว่า “รักท่านจุรินทร์นะครับ สู้ๆครับ” ทราบชื่อ ด.ช.ปริญญา อุไร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้น นายจุรินทร์ ได้มอบดอกกุหลาบให้แทนคำขอบคุณ และบอกว่าดอกไม้ดอกนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ให้เก็บไว้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า คิดถึงหลายคนไม่ได้พบกันนาน ดีใจที่ได้มาพบและนำโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ขายของราคาถูก มีสินค้าสำคัญอุปโภคบริโภคหลายรายการ เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช เครื่องปรุงรส ไข่ไก่ ผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ลดราคาสูงสุด 62% ไข่ไก่แผงละ 95 บาท ฟองละ 3.17 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 20 บาท ข้าวสารราคาพิเศษ เป็นต้น และวันนี้มาติดตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งประกันรายได้ชาวสวนยาง สวนปาล์ม ข้าว มันสำปะหลังและข้าวโพด 5 ตัว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประกันรายได้เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล วันนี้กลายมาเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว ทำโดยกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าเป็นปีที่ 4 แล้ว ช่วยให้พี่น้องมีรายได้จากการขายพืชเกษตร 2 ทาง เวลาที่ราคาตก จากการขายในตลาด และส่วนต่างจากรายได้ที่ประกันจะเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง
ยางแผ่นประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 60 บาท น้ำยางข้นกิโลกรัมละ 57 บาท และขี้ยางกิโลกรัมละ 23 บาท ซึ่งสมัยก่อนขี้ยาง กิโลกรัมละ 10-12 บาท แต่วันนี้กิโลกรัมละประมาณ 20 บาท ราคาดีขึ้น แต่ถ้าวันไหนที่ราคาตกจะมีประกันรายได้มาช่วยให้พอลืมตาอ้าปากได้
ปาล์มน้ำมันประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ถ้าราคาตกก็จะมีเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรงด้วย ทำมาตลอด 3 ปีกว่าขึ้นปีที่ 4 ช่วยให้ทุกคนมีหลักประกัน ใครที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนและใครที่ยังไม่ได้รับเงินเมื่อถึงเวลาแล้วยังไม่โอนเข้าบัญชีติดขัดปัญหาให้แจ้งผู้แทนราษฎรได้ 3 ปีมานี้เฉพาะที่จังหวัดพังงาได้เงินจากโครงการประกันรายได้แล้ว 40,000 คน ประมาณ 1,000 ล้านบาท
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า การท่องเที่ยวต่อไปจะเป็นอนาคตอีกตัวหนึ่ง แต่อย่าทำท่องเที่ยวอย่างเดียวจนลืมเกษตร เพราะเกษตรจะเป็นฐานให้เรา ถ้าเราทำเศรษฐกิจขาเดียว เช่นที่ภูเก็ต ทำแต่การท่องเที่ยว พอมีโควิด ไม่มีนักท่องเที่ยวก็เสียหาย เป็นตัวอย่างให้คนทั้งประเทศให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ 2 ขา อย่าพึ่งอย่างใดอย่างหนึ่ง
“พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี อยู่ได้ เพราะนอกจากท่องเที่ยวยังมีเกษตร คนเกาะยาวเห็นบทเรียนของประเทศและหลายประเทศในโลก อย่าทิ้งเกษตร และต่อไปจะไม่ทำแต่ท่องเที่ยวสร้างอภิรีสอร์ท อภิโรงแรมเท่านั้น ต้องกระจายรายได้ให้ชุมชนมีอาชีพด้วย แต่เราไม่รังเกียจนักลงทุน เพราะลงทุนเองไม่ได้ ต้องท่องเที่ยวเมืองรอง และต้องเป็นท่องเที่ยวชุมชนในอนาคต ที่พวกเรารวมตัวกันให้ชุมชนเป็นเรื่องที่พี่น้องต้องสนับสนุน ให้ชุมชนมีรายได้ และสร้างงานตัวจริง เป็นสิ่งที่เราต้องเดินไป” นายจุรินทร์ ระบุ