นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 152 ว่า ในส่วนของรัฐบาลยังไม่ได้มีการกำหนดวันในขณะนี้ เนื่องจากหนังสือของประธานสภาฯ เพิ่งไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ในส่วนความเห็นของวิปรัฐบาลเห็นว่า ช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมคาดว่าเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และควรกำหนดระยะเวลา 2 วันในการเปิดอภิปรายเพื่อเสนอข้อเสนอแนะ
รองประธานวิปรัฐบาลฝ่ายรัฐบาล ระบุว่า อยากจะยืนยันอีกครั้งหนึ่งกับประชาชน ฝ่ายค้าน ตลอดถึงนักวิชาการ ที่ออกมาพูดว่าการขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้ข้อเสนอแนะนั้นอาจจะนำไปสู่การยุบสภานั้นทางฝ่ายรัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อม นายกรัฐมนตรีก็มีความพร้อมที่จะชี้แจงในข้อซักถามของเพื่อนสมาชิก
อยากจะเรียกร้องว่าการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของฝ่ายค้าน ก็อยากให้ฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ในการอภิปรายและการซักถามรัฐบาล ในขณะเดียวกันทางวิปรัฐบาลได้เสนอแนะครม.ไปแล้วว่า ขอให้ครม.แต่ละท่านได้เตรียมผลงาน ตลอดจนถึงการเตรียมตัว ตอบข้อซักถามเพราะครั้งนี้เหมือนเป็นการดีเบตกันในสภาครั้งสุดท้ายระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ และมีผลต่อการเลือกตั้งในครั้งถัดไปด้วย
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ เพราะท่าทีฝ่ายค้านอยากได้เวลามากกว่านั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้เกริ่นไปแล้ว เพราะเราไปดูการอภิปราย เพื่อเสนอแนะต่อการบริหารของครม.ที่ผ่านมาใช้เวลา 2 วันในการอภิปราย เพราะไม่ใช่เป็นการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ที่เป็นการอภิปรายเพื่อต้องลงมติไว้วางใจและไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะต้องอภิปรายรายบุคคลครบหมดทุกคนที่ถูกอภิปราย
แต่ในกรณีนี้เป็นกรณีที่เป็นข้อเสนอแนะ ตนมีความเห็นเพิ่มเติมว่า หากเป็นเช่นนี้ จริงๆแล้วควรจะให้สิทธิ์ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในการชี้แจงได้ตามข้อบังคับ คือเราจะต้องสลับการชี้แจงทั้งสองฝ่ายเท่ากัน
ถามต่อว่า เบื้องต้น 2 วัน กี่ชั่วโมง นายชินวรณ์ กล่าวว่า คงให้เวลาเต็มที่ ถ้าวันละ 12 ชม. จะได้เวลาทั้งหมด 24 ชม. เป็นส่วนที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนคนที่หนึ่ง นัดประชุมวิปทั้งสองฝ่าย เพื่อหารือกันเรื่องเวลาในการอภิปรายอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับประเด็นการอภิปรายนั้น ความเห็นส่วนตัวนั้น ตนเห็นว่า การอภิปรายครั้งนี้แม้จะไม่มีอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อลงมติ แต่เป็นการอภิปรายที่มีความสำคัญที่สุดดังนี้
1.เป็นการอภิปรายเพื่อเสนอแนะต่อครม.ครั้งสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ จึงเป็นเรื่องที่คาดหวังว่า ฝ่ายค้านพยายามที่จะทำงานเต็มที่ เหมือนที่ฝ่ายค้านไปแถลงข่าวไปแล้วว่าจะดำเนินการ ในการชี้ให้ประชาชนเห็นว่า 4 ปีหรือ 8 ปี ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
2.เป็นเหมือนการดีเบตกัน ระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ขอให้ทุกฝ่ายได้ทำงานในบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ
และ 3.อยากเห็นการอภิปรายครั้งนี้เป็นเชิงสร้างสรรค์ และเป็นการอภิปรายที่ไม่นำเรื่องส่วนตัว หรือไม่นำเรื่องที่เป็นวาทกรรมมาพูด แต่ควรจะถามเสนอแนะตรงไปตรงมา ในนามของวิปรัฐบาลจะให้ความร่วมมือ และยืนยันว่าจะไม่ให้มีการประท้วง หรือขัดขวางการอภิปรายทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน