วันนี้ (2 ก.พ.66) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง นางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด(อสส.) ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายกิตตินันท์ ทรัสประมุข อัยการอาวุโส กระทำการผิดกฎหมาย กฎ ระเบียบ และประมวลจริยธรรมข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือไม่
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ห้องพิจารณาคดี 403 คดีหมายเลขดำที่ อท 22-23/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท 33-34/2563 ความอาญาระหว่าง นายวัชระ เพชรทอง โจทก์ นายสรศักดิ์ เพียรเวช จำเลยที่ 1 และ นายชัชวาล อภิบาลศรี จำเลยที่ 2 (กรณีพิพาทการไม่ส่งเอกสารตามหมายศาลในคดีหมิ่นประมาทเรื่องทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ)
ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายกิตตินันท์ ทรัสประมุข อัยการอาวุโส ซึ่งไม่ได้รับการมอบหมาย หรือ แต่งตั้งจากสำนักงานอัยการสูงสุด ให้ทำหน้าที่เป็นอัยการแก้ต่างตามกฎหมาย หรือ เป็นที่ปรึกษากฎหมายกับจำเลยทั้งสอง ได้เข้าร่วมรับฟังการพิจารณาการสืบพยานโจทก์ตลอดเวลา ตั้งแต่เวลา 9.30-16.30 น. โดยนั่งในห้องพิจารณาคดีเก้าอี้ชิดติดกับจำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2
และฟังคำให้การพยานโจทก์ในลักษณะที่นำไปเป็นประโยชน์กับจำเลยทั้งสอง เมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาคดี นายกิตตินันท์ ได้จ้องมองตาข้าพเจ้าในลักษณะดุดันไม่เป็นมิตรเป็นเวลานานมากกว่า 1 นาที ซึ่งสุภาพชนไม่ควรปฏิบัติในห้องพิจารณาคดี
จึงขอกราบเรียนอัยการสูงสุด ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานอัยการสูงสุด สอบสวนการกระทำของ นายกิตตินันท์ ทรัสประมุข อัยการอาวุโส ดังกล่าวข้างต้นชอบด้วยตามกฎหมาย กฎ ระเบียบและประมวลจริยธรรมข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดข้อ 15-17 หรือไม่ ดังนี้
1. อาศัยกฎหมาย กฎ ระเบียบใดเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาการสืบพยานโจทก์เพราะต้องเป็นคู่ความหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคู่ความเท่านั้น ตามระเบียบปฏิบัติไปในฐานะใด ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับคดีไปได้หรือไม่
2. ในฐานะอัยการอาวุโสที่ได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นภาษีอากรของประชาชนได้รับมอบหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดให้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการใช่หรือไม่ หรือหากไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ยื่นขออนุญาตหรือยื่นใบลาออกนอกสถานที่ทำงาน และได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาใช่หรือไม่ อย่างไร