วันนี้( 21 พ.ค. 66) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 24 พ.ค. เวลา 10.00.น. จะไปยื่นเอกสารเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้น ITV รวม 2 รายการ คือ
1. ตารางรายชื่อผู้ถือหุ้น ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2566 พร้อมเอกสารประกอบ
2. ตารางรายได้รวมของ ITV ตั้งแต่ปี 2549 ถึงปี 2565 พร้อมเอกสารประกอบ โดยยกเว้นปี 2555 ซึ่งการที่นายพิธา มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น ITV มาตั้งแต่ปี 2551 นั้น พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด 2535 มาตรา 62 วรรคสาม บัญญัติว่า "ทะเบียนผู้ถือหุ้นให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าถูกต้อง"
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่าบริษัท ITV เคยมีรายได้ปี 2549 ประมาณ 2,158 ล้านบาทเศษ ปี 2550 ประมาณ 352 ล้านบาทเศษ ซึ่งรายได้ปี 2549 และปี 2550 ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจสื่อ แต่ปีต่อๆมา รายได้ลดลงทุกปีมาจนถึงปัจจุบัน เพราะ สปน.บอกเลิกสัญญา แต่ ITV ไม่เห็นด้วย จึงมีการฟ้องร้องกันอยู่ในศาลปกครอง คดียังไม่ถึงที่สุด สัญญาที่ถูกยกเลิกจะครบกำหนดวันที่ 3 ก.ค.68
"หลักฐานที่จะยื่นเพิ่มเติมในวันพุธที่ 24 พ.ค. น่าจะช่วยทำให้ กกต. พิจารณาได้เร็วขึ้น และน่าจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่า นายพิธา เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) หรือไม่"
ทั้งนี้ในวันดังกล่าวตนยังจะให้ถ้อยคำต่อ กกต.กรณีที่ก่อนหน้านี้ได้ร้องขอให้ตรวจสอบนายสุรพงษ์ สืบวงษ์ลีผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กรณีเปลี่ยนกรอบรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กเหมือนแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย อาจเข้าข่าย หลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง ตามที่กกต.มีหนังสือเชิญมา