8 พรรคร่วมตั้ง “พิธา” นั่งประธานเปลี่ยนผ่าน ดัน 7 คณะทำงานร่างนโยบาย

30 พ.ค. 2566 | 09:58 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2566 | 10:06 น.

ประชุม 8 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ตั้ง “พิธา” นั่งประธานเปลี่ยนผ่าน ถกครั้งต่อไป 6 มิ.ย.ที่พรรคเพื่อไทย ตั้ง 7 คณะทำงานร่างนโยบายแถลงต่อรัฐสภา รับแบ่งเค้กตำแหน่งรัฐบาลหลังจากนี้ ส่วนตั้งประธานสภา ก้าวไกล-เพื่อไทยขอหารือก่อน

วันนี้ (30 พฤษภาคม 2566) ที่พรรคประชาชาติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกับ 8 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคก้าวไกล พร้อมทั้ง พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่ แถลงผลการหารือถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล

นายพิธา แถลงว่า ในการประชุมร่วมกันครั้งนี้ หัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรค ได้มีข้อสรุปร่วมกันในการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยมีประธาน คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และมีกรรมการจากพรรคต่าง ๆ ประกอบด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายวิรัตน์ วรศสิริน, นายกัณวีร์ สืบแสง, นายวสวรรธน์ พวงพรศรี และนายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ 

ทั้งนี้คณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน จะมีการประชุมวาระต่าง ๆ ในวันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2566 ที่พรรคเพื่อไทยต่อไป

ตั้งคณะทำงาน 7 คณะร่างนโยบาย

นายพิธา กล่าวว่า ยังมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีกมา 7 คณะ เพื่อตอบสนองปัญหาประชาชน โดยจะมีตัวแทนของพรรคต่าง ๆ เข้าไปเป็นคณะทำงาน และมีประชุมต่อเนื่องก่อนเสนอรายละเอียมายังคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน ต่อไป ซึ่งคณะทำงานทั้ง 7 คณะประกอบด้วย 

  1. คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล และราคาพลังงาน 
  2. คณะทำงานภัยแล้ง เอลนินโญ่
  3. คณะทำงานสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 
  4. คณะทำงานการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
  5. คณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม PM 2.5 
  6. คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง และเอสเอ็มอี 
  7. คณะทำงานแก้ปัญหายาเสพติด 

“คณะทำงานจะร่วมกันหาทางออกทุกพรรคหาทางในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อกลั่นกรองออกมาเป็นนโยบายร่วมกันในการแถลงต่อรัฐสภา และนำไปปฏิบัติในฐานะฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป ต้องยืนยันว่าการทำงานของเราเป็นไปได้ด้วยดี สามัคคีกันสร้างการทำงานแก้ไขปัญหาประชาชนให้มากที่สุด" นายพิธา ระบุ

แบ่งเค้ก รมต. -ปธ.สภา รอก่อน

ส่วนการจัดสรรตำแหน่งของฝ่ายบริหาร นายพิธา ระบุว่า จะเกิดขึ้นภายหลังการทำงานร่วมกัน โดยยึดวาระการทำงานเพื่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย และก้าวไกลจะพิจารณาร่วมกัน โดยยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราพูดคุยในจุดประสงค์เดียวกันว่า สิ่งสำคัญคือการเตรียมพร้อมในการบริหารราชการแผ่นดิน 

“ตอนนี้ยังไม่มีเวลาเจาะจง แต่จะให้เป็นการพูดคุยกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล และต้องสอดคล้องเวลาตามกฎหมาย และเวลา กกต. แต่วันที่เฉพาะเลยคงไม่มี” นายพิธา กล่าว

ล่าสุดคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว เหลือแค่การรับรองสส. อย่างเป็นทางการเพื่อสามารถเปิดประชุมสภาโดยหวังว่ากกต.ใช้เวลาไม่นานรับรอง เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นโดยเร็ว และให้พวกเราเข้าไปบริหารผลักดันวาระต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป