ส่อง“โผทหาร-ตำรวจ”ใครตัวเต็งคุม 4 เหล่าทัพ

09 มิ.ย. 2566 | 04:19 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มิ.ย. 2566 | 10:45 น.

เปิดโผทหาร-ตำรวจ ตัวเต็งคุม 4 เหล่าทัพ พล.อ.เจริญชัย จ่อผงาด ผบ.ทบ. พล.อ.ทรงวิทย์ ลุ้น ผบ.ทสส. ทร.มี 3 ตัวเต็ง พล.ร.อ.ชลธิศ-พล.ร.อ.อะดุง-พล.ร.อ.สุวิน ทอ.จับตา พล.อ.อ.ชานนท์-พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์-พล.อ.อ.ณรงค์ ฟากสีกากีลุ้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์-พล.ต.อ.รอย-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

วันที่ 9 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานถึง “โผผบ.เหล่าทัพ” ที่อยู่ในอำนาจของรัฐบาลชุดเดิม และเตรียมที่จะมีการปรับย้ายนั้น ตัวเต็งแต่ละเหล่าทัพ มีดังนี้

 
ในส่วนของ กองทัพบก (ทบ.) คาดว่า “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ.(ตท.23) จะถูกเสนอชื่อให้เป็น ผบ.ทบ. คนที่ 43 ด้วยคอนเนกชั่นทหารคอแดง น้องรักสายตรง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ที่เติบโตใน ร.21 รอ. เป็นทหารเสือราชินีมาด้วยกัน

ทั้งนี้ในอดีต พล.อ.เจริญชัย เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ยุค คสช. มุมมองและประสบการณ์งานด้านการเมืองถือว่ามีพอตัว หากต้องไปทำหน้าที่วุฒิสภา( ส.ว.) โดยตำแหน่งอีก 1 ปี ก่อน ส.ว ชุดนี้จะหมดอายุปี 2567

ส่วนเก้าอี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) คนใหม่ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. คนปัจจุบัน ยกให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ตัดสินใจเลือกระหว่าง “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24 ) รอง ผบ.ทสส. ทหารคอแดง กับ “บิ๊กจ่อย” พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง (ตท.24) เสนาธิการทหาร ทหารคอเขียว ลูกหม้อ กองทัพไทย

หลังเกิดปัญหา “ทหารคอเขียว”รู้สึกไม่พอใจที่คนในกองบัญชาการกองทัพไทยไม่ได้รับการสนับสนุนตัดโอกาสคนในไปหลายคน ที่เติบโตมาตามสเต็ป แต่ไม่อาจขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดได้ ทั้ง “บิ๊กโจ้” พล.อ.ณตฐพล บุญงาม อดีตเสนาธิการทหาร “บิ๊กไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขา สมช.คนปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม คนในกองทัพฟันธงกันแล้ว หากการปรับย้ายอยู่ในอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ “บิ๊กอ๊อบ”คือ ผบ.ทหารสูงสุดคนต่อไป 100% ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงคุญสมบัติ เพราะ “ผบ.ทหารสูงสุด” ต้องเป็นประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ในขณะ พล.อ.ทรงวิทย์ เข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารได้ไม่ถึงเดือน ก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ และไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อย จปร.เช่นเดียวกัน

ด้าน กองทัพเรือ(ทร.) มีปัจจัยแทรกซ้อนเรื่องภายในและการเมือง ที่จะเป็นตัวชี้วัด ผบ.ทร.คนใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีแคนดิเดต ตท. 23 จำนวน 2 คน คือ เสธ.โอ๋ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และ บิ๊กดุง พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ

แต่ตัวแปรสำคัญ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ทร. (ตท.25) น้องชาย “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. เพราะแม้ พล.ร.อ.สุวิน จะเป็นรุ่นน้อง แต่อาวุโสกว่า เพราะติดยศพลเรือโทและพลเรือเอกก่อน

ขณะที่ กองทัพอากาศ(ทอ.) ตำแหน่ง ผบ.ทอ.เปรียบเหมือนเป็นเก้าอี้ผลัดกันชม คนละ 1 ปี อีกทั้งการคัดเลือกเปิดกว้าง ขอแค่ติดยศพลอากาศเอก ไม่จำเป็นต้องเติบโตในสายกำลังรบ ไม่ผ่านตำแหน่งผู้ฝูง ผู้การ และเจ้ากรมใดๆ และไม่ใช่นักบินตระกูลเอฟ ตามหลักปฎิบัติกันมา ก็สามารถนั่งเก้าอี้ตัวนี้ได้

ปีนี้ ทอ. มีแคนดิเดต เป็น ตท.23 ถึง 3 คนเกษียณพร้อมกันปี 2567 ทั้ง “บิ๊กหนึ่ง” พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา รอง ผบ.ทอ. “บิ๊กจ๋า” พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ผู้ช่วย ผบ.ทอ. และ “บิ๊กณะ” พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ

ขณะที่วงการสีกากี แม้ก่อนหน้านี้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 ต่อจาก “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ตามสูตร “เด่น ต่อ ต่าย โจ๊ก” 

แต่ดูเหมือนว่า การแบ่งมอบหน้าที่ ความรับผิดชอบตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.”เมื่อปี 2565 ทำให้เกิดข้อสังเกตว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาจไม่ใช่ ผบ.ตร.คนต่อไป เพราะไม่ได้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เหมือนกับ 4 ผบ.ตร. ในอดีตและปัจจุบันอย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

ทุกสายตาจึงโฟกัสมาที่ “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ดูแลด้านงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ (มค.กศ.) นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 24 และ นรต.รุ่น 40 แทน

แต่ล่าสุดชื่อ “บิ๊กต่าย” พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตท. 25 นรต.41 สอดแทรกมา เพราะวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายได้ อีกทั้งความอาวุโสสามารถเป็น ผบ.ตร. ได้เช่นกัน โดยจะเกษียณ 2569

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกคนคือ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แม้จะมีอายุราชการเหลือ 7 ปี และเคยประกาศว่า "ผมรอได้" แต่ด้วยสถานการณ์การเมืองไม่แน่นอน อนาคตอาจเกิดเปลี่ยนขั้วอำนาจ และเก้าอี้ ผบ.ตร.ก็ อิงตามขั้วการเมือง "บิ๊กโจ๊ก จึงขอสู้ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.ในปีนี้เช่นเดียวกัน โดยมีอายุราชการถึงปี 2574