นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต.วันนี้ ที่ประชุมยังไม่ได้มีการลงมติเรื่อง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือครองหุ้นไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82
เพียงแต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ได้รายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุม กกต.รับทราบ เท่านั้น
สำหรับวันนี้ ที่ประชุม กกต.ใช้เวลาประชุมตั้งแต่เวลา 13.00 น. และเลิกประชุมในเวลา 16.00 น. โดยไม่มีการแถลงใดๆ แต่มีรายงานว่ามีการนัดประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) เวลา 10.00 น. และวันที่ 13 ก.ค. ในเวลา 9.00 น.
เย็นวันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายรัฐมนตรีของพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีการส่งหนังสือเชิญไปชี้แจงเรื่องหุ้นไอทีวี จาก กกต.นั้นว่า กกต.ยังไม่มีหนังสือส่งไปที่พรรค และยังไม่มีที่บ้าน
เท่าที่ติดตามจากสื่อมวลชน ก็ไม่มีหมายเรียก ไม่มีการมห้เข้าไปชี้แจงแบบฉับพลัน และเท่าที่ทราบก็ยังไม่มีตรงจาก กกต.ไปที่พรรค แม้ตนเองก็ไม่ได้เข้าพรรคแต่ก็มีทีมกฎหมายที่สแตนบายไว้ และที่บ้านก็ให้คนคอยดูไว้หากมีเรื่องที่ต้องรีบไปชี้แจง ก็ต้องจะไปชี้แจง
ส่วนที่ มีข้อสังเกตว่า กกต. หากจะมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่เปิดให้ชี้แจงจะถือว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่นั้น มองว่า หากมีการตัดสินโดยยังไม่ได้ให้เข้าไปชี้ จะไม่เป็นธรรมต่อตัวเองมากน้อยแค่ไหนนั้น มองว่า จริงๆขัดอยู่กับระเบียบของกกต.ที่มีอยู่อย่างชัดเจน กระบวนการมีขั้นตอน
แต่ครั้งนี้เหมือนกับว่า มีการเร่งรัดเข้ามาเหมือนที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อเช้า ซึ่งก็มีคงสิ่งที่จะต้องเรียกร้องเรื่องความเป็นกลางและความเป็นธรรมของกกต.พอสมควร
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากจะมีการเลื่อนวันโหวตนายกออกไป นายพิธา ระบุว่า เห็นข่าวแต่ยังไม่ได้อ่านในรายละเอียดของวุฒิสภา แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องของประธานสภา ที่จะต้องวินิจฉัย และสภาโดยรวมว่าจะบริหารจัดการอย่างไร คงไม่ได้เป็นเรื่องที่ตนจะให้ความเห็นได้