จับตา"นราพัฒน์ แก้วทอง" ชิงหัวหน้าปชป. สร้าง"One Democrat"

การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคคนใหม่ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา  นอกจากมีชื่อ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคปชป.เข้าชิงแล้ว ยังมีชื่อ "นราพัฒน์ แก้วทอง"  รองหัวหน้าพรรค อีกคน 

 แม้ช่วงบ่ายการประชุมพรรคเดินหน้าต่อไม่ได้  เพราะองค์ประชุมไม่ครบ สาเหตุจากมีมติยืนยันจะใช้นํ้าหนักคะแนน 70:30 ตามข้อบังคับพรรค  แต่ดูเหมือน "นราพัฒน์" มองเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเป็นเสน่ห์ความเป็นประชาธิปไตยของพรรค ที่มีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในเวลาเดียวกัน  ต้องเคารพเสียงในการตัดสินใจของสมาชิกพรรค โดยเขาหวังว่าในวันข้างหน้า พรรคจะเป็น "One Democrat" หรือ “One ประชาธิปัตย์” ให้ได้

นราพัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2512 เป็นลูกชาย "ไพฑูรย์ แก้วทอง" อดีต ส.ส.พิจิตรหลายสมัยและอดีตรมว.แรงงาน 

เป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคปชป. ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ 

นราพัฒน์ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี บริหารธุรกิจ สาขาบัญชี จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท บริหารธุรกิจ (M.B.A) จาก National University ประเทศสหรัฐอเมริกา
    นราพัฒน์ เริ่มเส้นทางการเมือง จากการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 2 จังหวัดพิจิตร ได้รับเลือกตั้งได้เป็น ส.ส. ครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 มกราคม  2544

ต่อมาการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นราพัฒน์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 จังหวัดพิจิตร ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนนำเป็นเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดพิจิตร และเป็น ส.ส. พรรคปชป.เพียงหนึ่งเดียวของจังหวัดพิจิตร

การเลือกตั้งวันที่  3 กรกฎาคม  2554 นราพัฒน์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 2 จังหวัดพิจิตร และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพียงคนเดียวของจังหวัดพิจิตรอีกครั้ง เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้า และได้เป็นรองเลขาธิการพรรค พร้อมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี และนายศุภชัย ศรีหล้า

ในการเลือกตั้ง ปี 2562 นราพัฒน์  พลาดเก้าอี้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ  แต่ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคปชป.ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เช่นเดิม
     ล่าสุด ในการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พฤษภาคม 2566 นราพัฒน์ ได้เป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาธิปัตย์ในลำดับที่  7 และเป็นหนึ่งใน 25 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นยุคที่ทางพรรคมีจำนวนส.ส.ในสภาน้อยที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการจัดตั้งพรรค  

"นราพัฒน์" ประกาศว่า หากได้รับโอกาสจากสมาชิกในการเป็นหัวหน้าพรรค ยินดีที่จะมาเป็นคนขับเคลื่อนกฎ และร่างข้อบังคับ หรือกติกา ให้มีความทันสมัยต่อโลก ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และข้อบังคับต่างๆ ในพรรค

รวมถึงผนวกผู้อาวุโสกับคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน และคิดว่าจะอยู่ในตำแหน่งประมาณ 1 ปีครึ่ง ไม่เกิน 2 ปี เพื่อคืนอำนาจให้สมาชิกได้พิจารณาอีกครั้ง