วันที่ 17 ก.ค. 2566 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเจ้าหน้าที่รัฐกรณีพ้นจากตำแหน่ง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา กรณีพ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 3 ก.พ.66 ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 70,652,584.24 บาท
พร้อมระบุ มีหนี้สิน 7,930,920 บาท เป็นหนี้ของนายรัชฎา เป็นเงินเบิกเกินบัญชีเงินกู้จากสถาบันการเงินและเงินยืมจากพี่ชายรวม 5 ล้านบาท โดยกู้ยืมเมื่อเดือนธ.ค. 64 จำนวน 2 ล้านบาทและเดือนส.ค. 65 จำนวน 3 ล้านบาท และยังเป็นหนี้เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้จากสถาบันการเงินด้วย
นายรัชฎา มีทรัพย์สินส่วนตัวรวม 49,767,685.09 บาท เป็นเงินสด ระบุว่าอยู่ที่ ป.ป.ช. จำนวน 2,550,000 บาท แบ่งเป็นเงินที่ ป.ป.ช.ยึดไปตรวจสอบ 2,150,000 บาท และเงินประกันตัว 400,000 บาท มีเงินฝาก 22,020,793.92 บาท เงินลงทุน 4,994,891.17 บาท ที่ดิน 5,022,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,780,000 บาท สิทธิสัมปทาน 5,900,000 บาท
ส่วนรายการทรัพย์สินอื่นแจ้งมีมูลค่ารวม 300,000 บาท ประกอบด้วย พระเนื้อโลหะขอบทอง พระเครื่องรางงาแกะขอบทอง องค์ละ 25,000 บาท พระเครื่องขอบทอง 5 องค์มูลค่า 200,000 บาท และปืนออโตเมติก .380 จำนวน 1 กระบอกมูลค่า 50,000 บาท
นายรัชฎา ยังได้แจ้งรายได้ต่อปี มีรายได้ 6,961,200 บาท มาจากเงินเดือน 921,600 บาท เงินประจำตำแหน่ง 174,000 บาท เงินค่าตอบแทน 174,000 บาท เงินค่ารถประจำตำแหน่ง 381,600 บาท เบี้ยประชุม 50,000 บาท ค่าเบี้ยเลี้ยง 60,000 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากและเงินปันผลจากสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ 700,000 บาท ขายสร้อยทอง 2 ล้านบาท รายได้จากเงินทำบุญศพมารดาเมื่อปี 2564 จำนวน 2 ล้านบาท และเงินทำบุญครบรอบ 1 ปี เมื่อปี 2565 จำนวน 500,000 บาท
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวปีละ 240,000 บาท ค่าผ่อนบ้าน 973,440 บาท และจ่ายค่าประกันชีวิต 500,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 120,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 100,000 บาท และเงินบริจาค 10,000 บาท ทำให้มียอดรวมรายจ่ายต่อปี 1,943,449 บาท และแจ้งข้อมูลการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา แจ้งมีเงินได้พึงประเมินจำนวน 1,238,400 บาท
ทั้งนี้นายรัชฎา พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานฯ เนื่องจากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนหลังตำรวจและป.ป.ช.บุกเข้าจับกุมตัวที่ห้องทำงานเมื่อปลายปี 65 และถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินเพื่อโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่