จากเหตุการณ์ในวันที่ 11 สิงหาคม เวลา 02.30 น. สามารถจับภาพกลุ่มชาย ซึ่งถูกระบุว่าเป็น สส.ของพรรคก้าวไกล กำลังรับประทานอาหารอยู่ภายในร้าน จากนั้นได้มีชายลักษะมึนเมาเข้ามาจับคอของผู้หญิงในโต๊ะ ก่อนจะเกิดปากเสียงกับชายอีกคน จนเกิดเหตุชุลมุน และทำให้ชายที่มีอาการเมาล้มไปกองกับพื้น ทำให้การ์ดของร้านอาหารรีบเข้ามาห้าม จับทั้ง 2 ฝ่ายแยกออก ทั้งนี้ในภาพยังปรากฎภาพ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
ขณะที่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล แจงกรณีเหตุทะเลาะวิวาทที่มีสส.พรรคก้าวไกล เข้าไปเกี่ยวข้อง ยืนยันไม่ได้มีการข่มขู่ให้ร้านเปิดเกินเวลาระหว่างรอพนักงานเข้ามาเก็บโต๊ะ มีชายคู่กรณี เดินเข้ามาในกลุ่มเพื่อขอถ่ายรูปกับกลุ่มของ สส. ด้วยเช่นเดียวกับแฟนคลับปกติ แต่เมื่อเดินออกไปได้ถีบเก้าอี้จนล้มคว่ำ เหมือนคนเมาขาดสติ นายจรยุทธ เดินมาเห็นเหตุการจึงจับเก้าอี้ตั้งขึ้น และได้เข้ามานั่งข้าง น้องรุ้ง ทีมงานของพรรค จากนั้นบุคคลดังกล่าวได้เดินกลับมา ยืนด้านหลังน้องรุ้ง และตั้งใจเอาเข่ากระแทกด้านหลังน้องรุ้งอย่างแรงจนเกือบตกเก้าอี้จากนั้นเอามือมาบีบคอน้องรุ้งจากด้านหลัง จนนายจรยุทธ ต้องหันไปถามน้องรุ้งว่ารู้จักกันหรือไม่ แต่น้องรุ้งปฏิเสธ
นายกรุณพล กล่าวเพิ่มเติมว่า นายจรยุทธจึงเอามือไปจับที่แขนของชายคนดังกล่าวขอให้ปล่อยมือจากคอของน้องรุ้ง แต่ชายคนดังกล่าวกลับหันมาตบหน้า นายจรยุทธ ทำให้ นายจรยุทธลุกขึ้นยืนมองหน้า แต่มีคนเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกันในจังหวะนั้น ชายคนดังกล่าวอาศัยกลับเดินเข้ามาต่อยที่หน้าของ นายจรยุทธแบบไม่มีสาเหตุ และลื่นล้มลงไปเอง ทำให้ นายจรยุทธและคนที่มาด้วยกัน ใช้เท้าถีบเพื่อตอบโต้จากการที่ถูกทำร้ายร่างกาย จากนั้นการ์ดของทางร้ายก็ได้มาแยกทั้งคู่ออกจากกัน และได้มีการนำทั้งคู่ออกมาพูดคุยกันนอกร้าน แต่ด้วยอารมณ์ที่ผ่านการถูกทำร้ายร่างกายมาทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้มีการใช้กำลังกันด้านนอกร้านอีกครั้ง การ์ดของร้านจึงได้แยก ทั้ง 2 ฝ่ายและทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาระงับเหตุและไกล่เกลี่ย ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจเอาความกันและกัน
ส่วนสาเหตุของการก่อความวุ่นวายดังกล่าวนั้นยังไม่แน่ชัด แต่มีข้อมูลว่าคู่กรณีอาจไม่ชอบพรรคก้าวไกล แต่ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน ทั้งนี้พรรคก้าวไกลตระหนักถึงการเป็นตัวแทนและแบบอย่างของประชาชนทุกคน ทางพรรคและนายจรยุทธ รู้สึกเสียใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าทางนายจรยุทธจะถูกทำร้ายร่างกายด้วยการถูกตบหน้าและต่อยหน้าก่อน ก็ไม่ควรใช้กำลังตอบโต้กลับ การมีสติและควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่เป็นผู้แทนของประชาชน ทางพรรคและนายจรยุทธ ขอน้อมรับคำตำหนิจากสังคมและพร้อมที่เข้าสู่การตรวจสอบ แม้จะไม่มีการแจ้วดำเนินคดีต่อกัน แต่ตามระเบียบของพรรค ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการวินัยตามขั้นตอน
ด้านต้นกล้า จรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนให้ทุกคนได้ฟังนะครับ
ผมได้ไปดื่มกินที่ร้านอาหารที่ซอยเอกมัยซึ่งเป็นร้านที่ไปเป็นประจำ โดยในคืนนั้นมีเพื่อนๆหลายคนไปร่วมด้วย หลังจากร้านปิดระหว่างรอทุกคนออกจากร้าน มีชายคนนึงได้เข้ามานั่งคุยที่โต๊ะพวกเรา หลังจากนั้นได้ลุกขึ้นและถีบเก้าอี้ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ หลังจากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวได้เดินกลับมาที่โต๊ะและเริ่มมีท่าทีคุกคามใส่น้องผู้หญิง จนตัวผมเองที่นั่งอยู่ข้างๆได้ยกมือขึ้นเพื่อตักเตือนแต่ถูกสวนกลับด้วยการตบที่หน้าอย่างแรง พอผมลุกขึ้นยืนชายคนดังกล่าวได้ต่อยเข้าที่หน้าผมอีกทีหนึ่ง หลังจากนั้นผมเลยได้ทำการตอบโต้ตามสัญชาตญาณของวิญญูชนคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายร่างกาย เรื่องราวทั้งหมดจบลงกันในคืนนั้น ไม่มีการดำเนินคดีจากทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ดี ผมต้องยอมรับว่าการกระทำของผมนั้นไม่ถูกต้อง ไม่ควรที่จะตอบโต้กลับไป ไม่ควรใช้ความรุนแรง ในกรณีนี้ผมยอมรับผิดครับ ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไว้วางใจและเลือกผมเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร บทเรียนครั้งนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญมากครับ
แต่สิ่งที่สร้างความเข้าใจผิด กรณีสำนักข่าว Manager ที่ลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยที่ไม่ได้ติดต่อมาสอบถามผมเลย ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดไปมาก ผมขอให้ทางสำนักข่าวเผยแพร่ข้อเท็จจริงที่ผมชี้แจงใหม่นี้ด้วยนะครับ
ขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักที่ติดต่อเข้ามา ผมขอชี้แจงครั้งเดียวในโพสนี้และจะไม่ขอให้สัมภาษณ์เพื่อขยายความอีกครับ เรื่องนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ขอให้พี่น้องสื่อมวลชนเข้าใจจุดประสงค์ของผมและนำเสนองานของผมที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในอนาคต
สุดท้ายนี้ผมขอโทษทุกท่านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนี้ไปผมจะดำรงตนให้เหมาะสมต่อการเป็นผู้แทนราษฎร