"จตุพร"ฟันธงเศรษฐาถอนตัวนายกก่อนเที่ยง จับตา"อุ๊งอิ้ง-บิ๊กป้อม"เสียบ

21 ส.ค. 2566 | 02:17 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2566 | 02:17 น.

"จตุพร"ฟันธงเศรษฐาถอนตัวนายกก่อนเที่ยง จับตา"อุ๊งอิ้ง-บิ๊กป้อม"เสียบ หลังวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นัดแถลงข่าวใหญ่ปิดฝาโรงเศรษฐา ชี้ทักษิณกลับไทยสิ่งที่คิดทั้งหมดนั้นอาจไม่ได้ตามแผนที่ดีลกันไว้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน หลอก? โดยประมินสถานการณ์ทางการเมืองในวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นัดแถลงข่าวใหญ่ปิดฝาโรงนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า ไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมทำนายว่า ก่อนเที่ยงนายเศรษฐา จะประกาศถอนจากแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ที่จะมีการโหวตในวันที่ 22 ส.ค. นี้

นายจตุพร กล่าวว่า แม้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ยืนยันนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อจะกลับไทยแน่นอน และไม่มีการดีลใดๆ แต่การอ้างเป็นเวลาจากฤกษ์ยามที่ดี เพราะโหรทายทักให้กลับ 22 ส.ค. ดังนั้น การอ้างเช่นนี้จึงเป็นคนละเรื่องที่เคยให้ไว้เมื่อเลื่อนกลับไทยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่า นัดหมอตรวจสุขภาพ

ส่วนความมั่นใจถึงการโหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯ แบบม้วนเดียวจบนั้น นายจตุพร กล่าวว่า คงเจอข้อมูลนายชูวิทย์ จะชำแหละอย่างหนักเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ซึ่งอาจต้องจบ และคงถึงขั้นต้องประกาศถอนตัวจากแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยก็เป็นไปได้ และขอทำนายว่า ความน่าจะเป็นมีมากอย่างยิ่งที่นายเศรษฐา จะถอนตัวก่อนเที่ยงในวันที่ 21 ส.ค.นี้

“หากก่อนเที่ยง 21 ส.ค. นายเศรษฐาไม่ประกาศถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย แต่ก็ไม่ผ่านการโหวตอยู่ดี ดังนั้น จึงทำนายว่า ก่อนเที่ยงจะถอนตัว เพราะถูกนายชูวิทย์ ชำแหละอย่างหนัก ซึ่งยากจะมีใครกล้าไปแถลงข่าวชูมือให้เป็นนายกฯ ของพรรคร่วมได้ในวันที่ 21 ส.ค. ตอนบ่าย และมีกระแสข่าวระบุถึงการหารือจะให้อุ๊งอิ๊งมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ และจะโหวตผ่าน แต่จะโชคร้ายกว่าเศรษฐามาก เมื่อเดินเข้าไปแดนจริยธรรมในทางการเมืองจะถูกตัดสินการเมืองตลอดชีวิต แต่โทษอาญา มันสาหัสสากรรจ์อย่างยิ่ง”

สำหรับการนัดแถลงเปิดตัวพรรคร่วมตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในช่วงบ่าย 21 ส.ค. นั้น ใครจะเป็นผู้แถลงร่วมรัฐบาล และแต่ละพรรคจะมากันพร้อมหน้าหรือไม่ แล้วภาพจับมือชูการตั้งรัฐบาล เพื่อไทยจะมีสีหน้าเช่นใดกับการทิ้งสัจจะกับประชาชนมาตั้งรัฐบาลข้ามขั้วกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ

อีกอย่างการเปิดประเด็นชำแหละของนายชูวิทย์ในวันที่ 21 ส.ค.นั้น ย่อมเป็นวิบากกรรมใหญ่โตของนายเศรษฐา และจะผูกพันกับการกลับหรือไม่กลับของทักษิณด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าเพื่อไทยยังยืนยันเสนอนายเศรษฐา เข้าโหวตนายกฯ วันที่ 22 ส.ค.นี้ ดังนั้น โอกาสกลับบ้านของทักษิณ คงเหลือความเป็นไปได้ 50 : 50 แต่ความน่าจะเป็นอาจไม่กลับก็มีอยู่สูง

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หากเปลี่ยนเป็นอุ๊งอิ๊งเข้าโหวตเป็นนายกฯ แล้วจะว่าอย่างไร หากไม่เอา แล้วส่งไปให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคพลังประชารัฐ) เพื่อทักษิณจะได้กลับบ้านเลย สถานการณ์เหล่านี้จึงควรจับตาปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวัน 21 ส.ค.นี้

การกลับบ้านของทักษิณ ต้องมีแพทย์ประกบมาด้วย และมีใบรับรองแพทย์ระบุเป็นโรคอะไร ซึ่งโรคตา โรงพยาบาล (รพ.) ราชทัณฑ์ ไม่มีเครื่องมือรักษา ต้องส่งไปที่ รพ.ตำรวจ ต่อจากนั้นอาจคงไปที่ รพ.เอกชนสักแห่ง สิ่งสำคัญคือ ถ้าประชาชนไม่เห็นชอบกับการได้สิทธิพิเศษในการรักษา เนื่องจากนักโทษทั่วไป และอดีตรองนายกฯ พร้อมรัฐมนตรีที่ติดคุกอยู่ยังไม่ได้สิทธิ์เหล่านี้ จะว่าอย่างไร

รวมทั้งยกตัวอย่างว่า มีนักโทษคนหนึ่งตาบอดทั้งสองข้างในคดีวางระเบิด ยังไม่ได้ไป รพ.รักษาเลย แต่ถูกขังในคุกทั้งตาบอด หากทักษิณกลับมา อ้างโรคตาและดีลจะถูกนำมารักษาตามเดิมอย่างดียิ่ง อยากไป รพ.เอกชนก็ได้ไป แต่เมื่อประชาชนออกมาต่อต้านจะถูกนำมาติดคุกตามเดิมได้เช่นกัน 

อีกทั้งทุกกระบวนการคิดของทักษิณ ดูเหมือนง่ายกันหมด หากอุ๊งอิ๊งบอกไม่มีดีลกับใคร หรือการขอพระราชอภัยโทษ ย่อมเป็นเรื่องทักษิณพิจารณาก็ว่ากันไป สิ่งสำคัญถ้าทักษิณไม่ติดคุกจะเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งกว่าการพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอยเสียอีก

“อยากให้ทักษิณกลับมา แต่ควรเข้าใจด้วยว่า สิ่งที่คิดทั้งหมดนั้นอาจไม่ได้ตามแผนที่ดีลกันไว้ สิ่งสำคัญประชาชนจะลุกขึ้นต่อต้านการทำตัวได้อภิสิทธิเหนือนักโทษคนอื่น ก็ลามให้นำตัวทักษิณไปติดคุก ดังนั้น การดีลกันก็อาจถูกอ้างว่า ทำให้ทุกอย่างตามที่ขอแล้ว แต่ประชาชนไม่ยอมให้สิทธิพิเศษแก่ใครทั้งสิ้น ทักษิณก็ต้องติดคุก แล้ววันดีคืนนี้ก็มีรูปนอนคุกหลุดออกมาประจานให้สมน้ำหน้า เพิ่มความเจ็บปวดใจมากขึ้น จนชีวิตดูประหนึ่งหมดศักดิ์ศรีแล้ว”

ส่วนการตั้งรัฐบาลนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เงื่อนไขการเจรจาเข้าร่วมรัฐบาลยังไม่จบ และอำนาจต่อรองของเพื่อไทยจะหายไปเป็นลำดับ ดังนั้น สถานการณ์จากนี้ไปจะเกิดการสมน้ำหน้าทักษิณและเพื่อไทย ถึงที่สุดการกลับมาของทักษิณ จึงไม่ง่ายอย่างที่พูดดีลกันไว้แน่นอน

“สถานการณ์ขณะนี้ ให้จับตานายเศรษฐา และดูการแถลงจัดตั้งรัฐบาล และจับตาการเปลี่ยนแคนดิเดตคนใหม่ ถ้าเป็นอุ๊งอิ๊งจะเข้าเกมกับดักจบอย่างสมบูรณ์ สิ่งสำคัญนายเศรษฐาจะจบก่อนโหวตนายกฯ อีกอย่างถ้าทักษิณกลับมาจริง จะมีปรากฎการณ์แบบสมน้ำหน้าให้อับอายเกิดขึ้น โดยลากลามดีลให้ไปปลุกอารมณ์คนเพิ่มอารมณ์โกรธมากยิ่งขึ้น”

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หากทักษิณต้องการกลับบ้านตามฤกษ์ยามวันที่ 22 ส.ค.และไม่เกี่ยวกับการโหวตนายกฯ กันจริงๆ แล้ว ก็เสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เลื่อนวันโหวตนายกฯ ออกไปได้ และตนอยากให้กลับมา แล้วขอให้สำเร็จดังหวังทุกอย่างด้วยดี