23 สิงหาคม 2566 กรณีโซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ข้อความว่าพรรคเพื่อไทยจะพับแผนนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล digital wallet 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย โดยอ้างคำพูดนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการเลขานุการและโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย
น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องเก่า ตั้งแต่ในช่วงที่พรรคไทยรักไทยเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล แต่หลังจากมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง พรรคเพื่อไทยก็ได้นำนโยบายนี้กลับมาอีกครั้ง โดยยืนยันว่านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าขั้นต่ำจะสามารถทำได้ใน 6 เดือน เพราะต้องจัดทำระบบบล็อกเชน (blockchain) ให้สามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้และพื้นที่การใช้จ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะต้องหารือกับส่วนราชการต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไปสร้างสกุลเงินใหม่เพียงแต่เป็นการหาวิธีกระจายงบประมาณส่วนหนึ่งจากงบที่มีอยู่ 3.3 ล้านล้านบาท มาจัดสรรมาเพื่อรองรับนโยบายเงินดิจิทัลให้พอจ่าย และเป็นหลักประกันการใช้จ่าย
“เราก็จะเร่งทำให้เม็ดเงินกระจายไปสู่ประชาชนอย่างทั่งถึง โดยเราจะสร้างให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุเกินกว่า 16 ปี มีเงินดิจิทัล 10,000 บาทอย่างทั่วถึง และให้ไปใช้จ่ายในพื้นที่ของตัวเอง ใช้ให้จบภายใน 6 เดือน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียน การกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ” นพ.พรหมินทร์ กล่าว
ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พรรคเพื่อไทย จะเดินหน้า “กระเป๋าเงินดิจิทัล” นโยบายเร่งด่วนเมื่อเป็นรัฐบาล โดยระบุว่า “ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักต่อเนื่องมาหลายปี พรรคเพื่อไทย จึงมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อเป็นรัฐบาลจะเดินหน้า ‘นโยบาย Digital wallet 10,000 บาท’ อย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน บรรเทาปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ให้ระบบเศรษฐกิจกลับมาหมุนเวียนอีกครั้ง
นโยบาย Digital Wallet 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย มุ่งเดินหน้านโยบายเงินดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วยแนวคิดที่ทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยทัศนคติเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ