ภาพนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 นับเป็นภาพประวัติศาสตร์ครั้งแรกของการเมืองของประเทศไทย สำหรับการพบหน้ากันระหว่าง นายกรัฐมนตรีเก่า ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลรักษาการ และ นายกรัฐมนตรีใหม่ หลังได้รับการพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
นั่นเพราะในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2475 หรือ 91 ปีที่แล้ว หลังจากประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนแรก ก็ไม่เคยมีประเพณี หรือธรรมเนียมปฏิบัติ เกี่ยวกับการส่งไม้ต่อ หรือ การพบหน้ากันของสองนายกรัฐมนตรีเก่า-ใหม่
ตามธรรมเนียบปฏิบัติที่ผ่านมา จะมีเพียงหน่วยงานต่าง ๆ ทำหน้าที่รับผิดชอบรายงานข้อมูลสำคัญของประเทศไทย ให้กับนายกรัฐมนตรีใหม่รับทราบเท่านั้น ประกอบไปด้วย
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) : เข้ารายงานสถานการณ์ประเทศไทย โดย “ดนุชา พิชยนันท์” เลขาธิการ สศช. ระบุเรื่องนี้กับ ฐานเศรษฐกิจ ว่า หลังจากรัฐบาลใหม่ เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินแล้ว สศช. จะรายงานสถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทย รวมทั้งข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ให้กับนายกฯ รับทราบทันที
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) : เข้ารายงานเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติราชการแผ่นดิน ระเบียบข้อปฏิบัติด้านการประชุมคณะรัฐมนตรี รวมทั้งระเบียบข้อปฏิบัติของข้าราชการการเมือง เช่นเดียวกับการรายงานข้อเสนอรวมไปถึงข้อกฎหมายของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยังคงค้างอยู่ในขั้นตอนการเสนอให้ที่ประชุมครม. พิจารณา
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) : เข้ารายงานเกี่ยวกับระเบียบ ข้อปฏิบัติงานพิธีต่าง ๆ ที่สำคัญของนายกฯ และคณะรัฐมนตรี
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) : เข้ารายงานสถานการณ์ นโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางและแผนด้านความมั่นคงแห่งชาติในภาพรวม ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สำนักงบประมาณ : เข้ารายงานสถานะด้านการงบประมาณ รวมทั้งแนวทางการบริหารงบประมาณของประเทศรองรับนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่นเดียวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และ การเสนอปฏิทินงบประมาณ 2567 รวมไปถึง การเตรียมความพร้อมงบประมาณรายจ่ายปี 2568 ซึ่งจำเป็นต้องเร่งจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าด้วย
แต่การพบกันครั้งนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทย แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน สะท้อนภาพการก้าวข้ามความขัดแย้ง หลังจากพรรคเพื่อไทยรวบรวมคะแนนเสียง 11 พรรค ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ พร้อมประกาศว่าจะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรักสามัคคีปรองดองของคนในชาติ และจะร่วมกันสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศชาติและประชาชน
โดยก่อนจะเกิดภาพช็อตสำคัญทางการเมืองครั้งนี้ มีรายงานข่าวยืนยันว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ติดต่อขอเข้ามาพบ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยตัวเอง
ส่วนบรรยากาศการเดินทางพบหน้ากันของทั้งสองผู้บริหารประเทศนั้น ตั้งแต่วินาทีที่รถยนต์โตโยต้า อัลฟาร์ด สีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร เคลื่อนเข้ามาในรั้วทำเนียบรัฐบาล ผ่านกองทัพผู้สื่อข่าวต่างให้ความสนใจรอทำข่าวกันอย่างคึกคัก
จนเมื่อรถเข้ามาเทียบบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ก็ได้เดินลงมาเยียบทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรก ในฐานะนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยกมือไหว้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งมารอรับบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่เลขาธิการนายกฯ จะเป็นผู้พานายเศรษฐา ขึ้นไปพบนายกฯ ประยุทธ์ บนห้องทำงาน
จากนั้นมีรายงานว่า ทั้งสองได้พูดคุยกันแบบ 4 eyes meeting ซึ่งเป็นการคุยกันส่วนตัวสองต่อสอง โดยคาดว่า น่าจะเป็นการหารือถึงการส่งมอบงานต่าง ๆ ที่นายกฯ ประยุทธ์ อยากให้ นายกฯ เศรษฐา ขับเคลื่อนต่อไป ซึ่งการหารือครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานมากนัก ก่อนที่นายกฯ จะมอบแจกันดอกไม้เพื่อแสดงความยินดี ก่อนจะจับมือและถ่ายรูปร่วมกัน
โดยก่อนกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ยังอาสาพา นายเศรษฐา ลงมาเยี่ยมชมตึกภักดีบดินทร์ ด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นตึกที่ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ด้วย จากนั้นจึงเดินขึ้นมายังตึกไทยคู่ฟ้า และพล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินมาส่งขึ้นรถกลับออกไปด้วยตัวเอง
ต่อมา นายเศรษฐา กล่าวถึงการเข้าไปพูดคุยครั้งประวัติศาสตร์ของสองนายกฯ ครั้งนี้ว่า เป็นการไปเยี่ยมเยียนและเคารพตามมารยาท โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมือง ซึ่งตนในฐานะผู้น้อยเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ก็ได้ไปพบและปรึกษาหารือ ซึ่งก็ได้สนทนากันและ พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่ารักพร้อมพาชมทำเนียบรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากเรื่องบริหารจัดการบ้านเมือง มีบางส่วนคำนึงถึงและให้ระวัง ให้ใจเย็น ให้อดทน ยึดมั่นดูแลชาติศาสน์กษัตริย์ และนโยบายอะไรดี ๆ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำไว้ก็ให้ฝากดูแลด้วย ซึ่งอะไรที่เหมาะสมที่จะทำต่อเราก็พร้อมทำ
“การพูดคุยครั้งนี้ หารือกันเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ วันนี้ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง แล้วก็มาดูแลบ้านเมืองให้ดี ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ก็ฝากฝังไว้” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ได้ชมทำเนียบรัฐบาล ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงห้องที่วันเด็กไปนั่ง แต่พลเอกประยุทธ์ บอกว่าท่านไม่นั่งตรงนี้ ท่านนั่งห้องเล็กอีกห้อง พร้อมระบุว่า พลเอกประยุทธ์ เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพและได้พูดคุยกันดีแบบผู้ใหญ่ โดยพลเอกประยุทธ์ บอกด้วยว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ได้มีนายกรัฐมนตรี 2 ท่านได้มาพบปะคุยแลกเปลี่ยนไอเดียและฝากฝังเรื่องบ้านเมือง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ส่วนกระแสตอบรับที่ออกมาหลังการพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ยอมรับว่า ความขัดแย้งมีอยู่ในหลายภาคส่วน การพบปะเพียงหนเดียวแล้วทุกอย่างจะจบไป คงลำบาก แต่ต้องให้เวลาการกระทำและการกระทำเป็นตัวพิสูจน์