วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่รัฐสภา สส. พรรคก้าวไกล นำโดย นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และ นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พร้อมด้วย สส. พรรคก้าวไกลในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลและทำการประมง ร่วมแถลงข่าวเสนอร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศ จำนวน 4 ชุด รวม 10 ฉบับ ได้แก่ ชุดกฎหมายปฏิรูประบบภาษี 3 ฉบับ ชุดกฎหมายปฏิรูปที่ดิน 2 ฉบับ ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน 4 ฉบับ และชุดกฎหมายคืนชีวิตชาวประมง 1 ฉบับ
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าพรรคก้าวไกลทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์และพร้อมทำงานเชิงรุก คือไม่เพียงแต่ตรวจสอบทักท้วงการทำงานของรัฐบาลที่เราคิดว่าไม่ตอบโจทย์ประเทศ แต่จะทำงานเชิงรุกในการผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่เราได้นำเสนอต่อพี่น้องประชาชนผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวิธีหนึ่งที่สามารถผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงได้ คือการเสนอชุดกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า จำนวน สส.ก้าวไกล 150 คน หากกฎหมายที่เราเสนอได้รับความเห็นชอบจาก สส. อีก 100 คนขึ้นไป จะทำให้กฎหมายนั้นผ่านสภาฯ นโยบายหลายอย่างที่เราสื่อสารกับพี่น้องประชาชนจะเป็นจริงได้ แม้พรรคก้าวไกลไม่ได้มีอำนาจฝ่ายบริหาร
ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลได้ยื่นชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศอย่างต่อเนื่อง วันนี้ยื่นเพิ่มเติมอีก 4 ชุด คือ (1) ชุดปฏิรูประบบภาษี ให้รัฐหารายได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการเก็บภาษีที่ดินแบบรวมแปลง (2) ชุดปฏิรูปที่ดิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวาระการปฏิรูปที่ดินที่พรรคเสนอในช่วงการเลือกตั้ง หนึ่งในนั้นคือร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม
วันนี้เสนอร่างกฎหมายเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินฉบับอื่นๆ ที่จะเสนอในครั้งต่อไป (3) ชุดกฎหมายเกี่ยวกับการประมง ซึ่งพรรคก้าวไกลเสนอตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้วแต่ค้างการพิจารณาอยู่ ดูแนวโน้มว่า ครม. ชุดใหม่จะยืนยันร่างดังกล่าวไม่ทัน เราจึงยื่นร่างกฎหมายประมงเข้าสู่สภาอีกครั้ง และ (4) ชุดคุ้มครองสิทธิแรงงาน
ด้านนายศักดินัย นุ่มหนู กล่าวถึงชุดกฎหมายประมงว่า ในสภาชุดที่แล้วได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาของพี่น้องชาวประมง จนถึงวันนี้ความเดือดร้อนยังไม่คลี่คลาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยื่นกฎหมายเข้าไปใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ปัญหาของพี่น้องประมงทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศได้รับการดูแลแก้ไข โดยในแง่กระบวนการ พี่น้องชาวประมงได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในร่างกฎหมายฉบับนี้
ขณะที่ นายเซีย จำปาทอง กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีความตั้งใจผลักดันกฎหมายที่เราได้นำเสนอต่อประชาชน แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องแรงงานมีสิทธิในการรวมตัว การเจรจาต่อรอง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีค่าจ้างที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ มีชั่วโมงการทำงานน้อยลง และผู้สูงอายุจะมีหลักประกันรายได้อย่างเพียงพอ โดยกฎหมายเหล่านี้พี่น้องแรงงานได้มีส่วนร่วมในการเสนอตั้งแต่ต้น และขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นจริง
จากนั้น เครือข่ายผู้ใช้แรงงานกลุ่มต่างๆ ซึ่งร่วมการแถลงข่าว ได้กล่าวสนับสนุนชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงานของพรรคก้าวไกล โดยตัวแทนจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างระบุว่า กฎหมายเดิม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ไม่สอดคล้องกับการจ้างงานในปัจจุบัน
ร่างกฎหมายสหภาพแรงงานที่เสนอในวันนี้จึงมีความสำคัญ พูดถึงประชาธิปไตยในที่ทำงาน ทำให้คนทำงานมีสิทธิในการรวมตัวเป็นสหภาพ มีอำนาจในการต่อรอง
ขณะที่ตัวแทนกลุ่มแรงงานนอกระบบ สนับสนุนร่าง พ.ร.บ. บำนาญถ้วนหน้าของพรรรคก้าวไกล โดยชี้ว่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปัจจุบัน ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ไม่สามารถสร้างความมั่นคงในชีวิต บำนาญถ้วนหน้าของพรรคก้าวไกลจะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
ส่วนตัวแทนแรงงานจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวสนับสนุนนโยบายลาคลอด 180 วัน ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสุขภาพของผู้หญิง สอดคล้องกับหลักสากลขององค์การอนามัยโลก