นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยวันนี้ (31 ส.ค.) ว่า ได้รับหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว
ณ ขณะนี้ ขอตรวจสอบเอกสารก่อน ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะนำส่งทันรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ และขอยืนยัน ว่านายทักษิณยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งสังคมกำลังตั้งคำถามว่านายทักษิณ อยู่ที่โรงพยาบาลจริงหรือไม่ว่า หากตนยังมีเครดิตอยู่บ้าง จะยืนยันว่าอยู่จริง ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจริง หลังจากที่พักอยู่ถึงเวลาเที่ยงคืนของวันที่22ส.ค. เนื่องจากนายทักษิณป่วย มีความดันขึ้นเกือบ 200 ต้องกินยาสลายลิ่มเลือด คงแพ้อะไรสักอย่าง ซึ่งเรียกว่า ดีเปรส ทำให้อาการทรุดหนักลง แต่หนักขนาดไหนไม่รู้ จึงทำให้ต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ตนได้ฝากให้แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจดูแล นายทักษิณยังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ ใครไปเยี่ยมไปเยือนก็ไปที่นั่น และอีกหน่อยก็จะเปิดให้คนอื่นเข้าเยี่ยมด้วย
ถามว่า อาการป่วยของนายทักษิณ ในลักษณะเช่นนี้ เป็นเหตุให้มีข้อมูลเพิ่มไปขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้ โดยปกติแล้ว คนที่ขอพระราชทานอภัยโทษโดยมาก จะอ้างคุณงามความดี 3 ประการ คือคุณงามความดีในอดีต คุณงามความดีในปัจจุบัน เช่น ขณะนี้เป็นนักโทษได้เลื่อนชั้นเป็นนักโทษดีเยี่ยม และอาจระบุ ในอนาคตจะบวช หากได้พ้นโทษไปแล้ว หรือจะไปทำคุณงามความดีก็สุดแล้วแต่
ถามว่า ครอบครัวชินวัตร ได้มาปรึกษานายวิษณุเกี่ยวกับเรื่องของการขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยเจอเลย
นายวิษณุกล่าวว่า เอกสารทางการแพทย์และประวัติรักษาที่เป็นภาษาอังกฤษของนายทักษิณ มีเอกสารจำนวนมาก เนื่องจากเป็นประวัติทางการแพทย์ที่สะสมมากว่า 17 ปี ได้เห็นเอกสารดังกล่าวแล้วว่า มีอะไรบ้าง เพียงแต่อ่านไม่ออกแปลไม่ถูก เนื่องจากเป็นภาษาหมอ
ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีสองมาตรฐาน
นายวิษณุยอมรับว่า ในส่วนของหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณที่ได้ถึงมือของตนแล้วนั้น หลังจากนี้จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ถามว่าใครเป็นผู้เขียนขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ขอตอบว่าเป็นใคร ซึ่งการเขียนขอพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้เป็นการขอเฉพาะบุคคลไม่เกี่ยวกับโอกาสวันสำคัญ ไม่ต้องดูว่ารับโทษมาแล้วเท่าใด เป็นพระมหากรุณาธิคุณทั้งนั้น ทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบ ซึ่งมีขั้นตอนไม่นาน ส่วนจะทันในสมัยที่ตนเองดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่า ต้องอยู่ไปนานเท่าไหร่ ประเมินไม่ถูก เพราะยังตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เสร็จ
นายวิษณุกล่าวยอมรับอีกว่า เมื่อเอกสารมาถึงมือแล้ว จะต้องใช้เวลา ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สมควรที่จะพูด ส่วนจะขอพระราชทานอภัยโทษทุกคดีหรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ
เมื่อถามว่า จากกรณีนายทักษิณ ถูกมองว่ากระบวนการยุติธรรมเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ใช่ 2 มาตรฐาน ต้องแยกให้ออกว่า อะไรเป็นขั้นตอนตามสิทธิ อะไรเป็นขั้นตอน ที่เป็นความเห็นของรัฐบาล หรืออะไรเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อยู่ในพระราชอำนาจ ต้องแยกให้ออกว่ามันเป็น 3 เรื่อง เมื่อหนึ่งเป็นสิทธิ์ของเขา ถ้าไม่ขอ ก็จะไม่มีสองและสามตามมา เมื่อขอเรื่องก็จะมายังรัฐบาล ขั้นต่อไปเป็นพระมหากรุณาธิคุณ เป็นพระราชอำนาจ จะพระราชทานอย่างไร เป็นเรื่องเสร็จเด็ดขาดตามรัฐธรรมนูญแล้วไม่ต้องให้เหตุผลด้วย