ดีอีเอส เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เร่งสร้างซูเปอร์แอปบริการรัฐ

12 ก.ย. 2566 | 09:51 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2566 | 10:28 น.

รัฐมนตรีดีอีเอส ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญพัฒนาระบบดิจิทัล เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล วอลเล็ต National Blockchain และ E-Government เตรียมทำ”ซูเปอร์แอป” รวมทุกแพลตฟอร์มบริการภาครัฐไว้ทีเดียว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  หรือ ดีอีเอส   กล่าวชี้แจงในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า   รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาระบบดิจิทัลของประเทศนั่นเป็นเหตุผลที่สำคัญ   โดยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล   เช่น  ดิจิทัล วอลเล็ต   National Blockchain   และ  E-Government    ซึ่งเรามีความตั้งใจที่จะให้เอาระบบเหล่านี้มารวมกันเป็น Digital Government อย่างสมบูรณ์  เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงภาคเศรษฐกิจและภาคการบริการ     และเพื่อที่จะนำมาใช้ประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น   

ดีอีเอส เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เร่งสร้างซูเปอร์แอปบริการรัฐ

 

เรื่องแรกเรื่องก็ Cloud First  เป็นแนวทางที่รัฐบาลได้จัดทำรายละเอียดไปแล้ว   ได้วางกรอบในการขยายเรื่องของ Cloud  ซึ่งเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  โดยเน้นการสร้างคลาวด์สาธารณะ  หรือ   พับบิคคลาวด์   และ คลาวด์ส่วนตัว   หรือ ไพรเวท คลาวด์   ที่มีมาตรฐานในการดูแลข้อมูลภาครัฐที่มีเป็นจำนวนมาก   นอกจากนั้นรัฐบาลมีโครงการที่จะดึงบริษัทชั้นนำทั่วโลก   มาลงทุน คลาวด์ ดาต้าในประเทศไทย   และจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค    เรื่องการปรับแนวทางในการจัดซื้อจัดจ้างเราจะใช้คลาว์ เพื่อให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น  เปิดช่องทางให้มีการเช่าพื้นที่บริการ   ในเรื่องของการจ้างเขียนโปรแกรมที่หลายคนเป็นห่วงจะหมดไป

สำหรับ   Digital ID  ขณะนี้กฎหมายได้มีมาตรฐานรับรองไว้แล้ว  ในด้านการบริการมีทั้ง  Thai ID และ NDID  ซึ่งเป็นระบบยืนยันตัวตนของผู้ให้บริการในระบบอินเตอร์เน็ต  ให้สามารถทำธุรกรรมทางโลกออนไลน์ต่างๆได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน  ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการขยาย Used Case  ซึ่งจะทำให้ระบบนี้ติดต่อสามารถดำเนินการผ่านรัฐและติดต่อค้าขายได้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ส่วนเรื่องของ Smart City หรือเรื่องของการพัฒนาพื้นที่ระดับเมือง   เราได้ส่งเสริมการนำข้อมูล Big Data เข้ามาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ โดยเชื่อมโยงข้อมูลเมืองในแต่ละชั้นข้อมูลและรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน City Data Platform ซึ่งเป็นวิธีที่สำคัญในการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองที่มีอัจฉริยะ

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ทำ  Health Link บัตรประชาชนใบเดียวสามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาลนอกจากนั้นแล้วยังสามารถเช็คข้อมูลประวัติข้ามโรงพยาบาลได้   นอกจากนี้ยังร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลท่องเที่ยว  Travel Link   แสดงให้เห็นการทำงานระหว่างข้อมูลภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

นายประเสริฐ  กล่าวต่อไปอีกว่า เรากำลังเตรียมการทำ Digital  Government โดยจัดทำแผนแม่บทในการบูรณาการในเรื่องของความแตกต่างของแต่ละกระทรวงมาพัฒนาระบบสารสนเทศ    โดยทำซูเปอร์แอปที่รวมทุกแพลตฟอร์มของภาครัฐ   ที่ใช้เทคโนโลยี  Blockchain  ซึ่งจะทำทั้งเลเยอร์ที่เป็นโครงสร้าง  และเลเยอร์ในส่วนของพัฒนา   ซึ่งในอนาคตจะเกิดการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งกันและกัน  ไม่มีการแยกข้อมูลให้ประชาชนได้เกิดความสับสนและซับซ้อน    ส่วนเรื่องโอเพ่น ซอร์ซ  ได้มีการศึกษาไว้แล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ