ดร.เอ้ สุชัชวีร์ กระตุกรัฐบาล ก่อนแจกแท็บเล็ต "เด็กไทยได้หรือเสีย" 

15 ก.ย. 2566 | 00:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ย. 2566 | 01:47 น.

ดร.เอ้ สุชัชวีร์ แนะรัฐบาล 3 เรื่องสำคัญพิจารณาก่อนเดินหน้าแจกแท็บเล็ตอาจได้ไม่คุ้มเสีย ชี้ไม่ใช่ "ของดี" สำหรับเด็กทุกวัย เน้นย้ำ "ประชาธิปัตย์" หนุนใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้แต่จำเป็นต้องใช้ความรอบคอบและมีความพร้อม

เวลานี้รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินหน้านโยบายหลายเรื่องที่ได้หาเสียงเอาไว้ รวมทั้งยังสานต่อนโยบายเดิมของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้ทำเอาไว้เอา โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการนั้น พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ประกาศนโยบายลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมเดินหน้าโครงการ 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ตนั้น

ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์, อดีตนายกสภาวิศวกร อดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และอดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ้ สุชัชวีร์" ในหัวข้อ "แท็บเล็ต เด็กไทยได้หรือเสีย" แสดงความกังวลพร้อมตั้งข้อสังเกตและฝากข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลใหม่ไว้ 3 เรื่องที่มีความจำเป็นในการพิจารณาก่อนเดินหน้าดำเนินการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนเหมือนที่ผ่าน ๆ มาเพราะผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป

อย่างไรก็ดี ดร.เอ้ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์นั้นสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้แต่จำเป็นต้องรอบคอบและมีความพร้อมเสียก่อนเพราะหากเกิดความสูญเสียไปแล้วก็ไม่สามารถเรียกร้องเอาคืนได้

สำหรับข้อความที่ระบุในโพสต์มีรายละเอียด ดังนี้

ใจเย็นนิดครับ เรื่องการแจกแท็บเล็ต แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีนั้นดี แต่ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ อาจเป็นคนละเรื่อง ผมห่วงใยในฐานะคนรักการศึกษา คนเทคโนโลยี และพ่อที่มีลูกในวัยเรียน ขอฝากไว้ 3 เรื่องจำเป็น ก่อนตะลุยแจก

1.แท็บเล็ต ไม่ใช่ของดีสำหรับเด็กทุกวัย โดยเฉพาะเด็กเล็ก อาจส่งผลลบด้านพัฒนาการ ทั้งด้านสายตา ด้านทักษะการใช้กล้ามเนื้อ และทักษะการสื่อสารทางสังคม

ดังนั้น ต้องให้แน่ชัดว่า เด็กไทยวัยใดมีความพร้อม ต่อการใช้งานแท็บเล็ต ไม่งั้นผลกระทบรุนแรง ได้ไม่คุ้มเสีย

2. แท็บเล็ต ไม่ใช่มีแล้วจะเรียนได้เรียนดี หากครูและผู้ปกครองยังไม่เข้าใจกระบวนการเรียนรู้ที่แท้จริง เพราะอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เป็นเพียงหนึ่งใน "เครื่องมือ" ไม่ใช่ปัจจัยหลักเพื่อการเรียนรู้ ครูและพ่อแม่ต่างหาก ที่สำคัญที่สุด ต้องรู้จักใช้เครื่องมือนี้ ถึงจะสอนเด็กได้

ดังนั้น การเตรียมความพร้อมของครู และผู้ปกครอง จำเป็นที่สุดต่อความสำเร็จของการใช้เทคโนโลยี

3. แท็บเล็ต อาจมีผลกระทบด้านพฤติกรรม ในเด็กทุกวัย มีงานศึกษาวิจัยว่า การอยู่หน้าจอนานเกินไป ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์ สร้างปัญหาทั้งเรื่องสมาธิสั้น ทั้งความฉุนเฉียว ใจร้อน หรือนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

ดังนั้น นักจิตวิทยาของกระทรวงศึกษา ต้องกล้าแนะนำผู้บริหาร และเตรียมความพร้อมในการดูแลผลกระทบนี้

ผมย้ำนะครับว่า ผมสนับสนุนเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และย้ำว่าคนไทยต้องเข้าถึง "อินเทอเน็ตฟรี" ตามนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ เพียงแต่ว่า เหรียญมีสองด้าน เมื่อมีคุณอนันต์ อาจมีโทษมหันต์ ก็เป็นได้

ความรอบคอบ และความพร้อมจึงจำเป็นยิ่ง ก่อนการแจกแท็บเล็ต มิเช่นนั้น เราอาจสูญเสีย อย่างไม่สามารถเอาคืนได้