เปิดทรัพย์สิน“ธีรรัตน์”ส.ส.กทม.เพื่อไทย รวย 43 ล้าน โสด มีปืน 4 กระบอก

06 ต.ค. 2566 | 07:09 น.
อัพเดตล่าสุด :06 ต.ค. 2566 | 07:13 น.

เปิดกรุทรัพย์สิน “ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์”ส.ส.กทม. หนึ่งเดียวของเพื่อไทย ครองโสด รวย 43 ล้าน คล้องพระเครื่องดัง “เขี้ยวเสือ” หลวงพ่อปาน องค์ละ 1 ล้าน มีปืน 4 กระบอก กระเป๋าแบรนด์เนมเพียบ

วันที่ 6 ต.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส.ส.จำนวน 78 ราย ได้แก่ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 จำนวน 77 ราย และเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2566 จำนวน 1 ราย 

โดยมีบุคคลที่น่าสนใจคือ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง ของพรรคเพื่อไทย แจ้งสถานภาพ “โสด” โดยมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 43,876,532 บาท 

 

ประกอบด้วย เงินสด 200,000 บาท เงินฝาก จำนวน 9 บัญชี 18,983,932 บาท เงินลงทุนในกองทุน 4 แห่ง 4,250,876 บาท ที่ดิน 2 แปลง ที่ลาดกระบัง กทม. 3,210,000 บาท รถยนต์ 2 คัน 8,000,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 5,949,722 บาท

ทรัพย์สินอื่น แจ้งไว้ 10 รายการ มูลค่ารวม 3,282,000 บาท ได้แก่ นาฬิกา 6 เรือน อาวุธปืน 4 กระบอก กระเป๋าแอร์เมส 1 ใบ กระเป๋าหลุยส์วิคตอง 7 ใบ กระเป๋าชาแนล 6 ใบ กระเป๋าโกยาด 2 ใบ กระเป๋าพราด้า 2 ใบ พระและสร้อยคอทองคำ 4 รายการ รูปถ่ายหลวงพ่อเดิมเลี่ยมทอง 1 องค์ เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน 1 รายการมูลค่า 1 ล้านบาท  

นอกจากนี้ แจ้งว่า มีหนี้สินทั้งสิ้น 463,759 บาท

สำหรับ ธีรรัตน์ มีชื่อเล่นว่า “อิ่ม” เกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2522 ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นบุตรของ นายวิบูล สำเร็จวาณิชย์ อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตลาดกระบัง (พ.ศ. 2518) และ นางทองดี สำเร็จวาณิชย์ มีพี่น้อง 8 คน

ธีรรัตน์ สำเร็จการศึกษา ในระดับปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยวูลลองกอง (University of Wollongong), Master of International Business และ ปริญญาเอกจาก มหาวิทยาลัยเซนทรัลควีนส์แลนด์ (Central Queensland University), Professional Doctorate สาขา Education (Transdisciplinary Studies) ประเทศออสเตรเลีย

ก่อนเข้าสู่วงการการเมือง เคยทำงานอยู่แผนกพัฒนาบุคลากร ฝ่ายยุทธศาสตร์การจัดการเรียนรู้แก่ผู้บริหารระดับสูง ธนาคารกสิกรไทย ลงสมัครส.ส. เป็นครั้งแรก ในปี 2554 สังกัดพรรคเพื่อไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 20 (เขตลาดกระบัง) ซึ่งเป็นฐานเสียงของครอบครัว โดยสามารถเอาชนะ นางสลวยเลิศ กิมสูนจันทร์ ภรรยานายมงคล กิมสูนจันทร์ อดีต ส.ส. และสมาชิกบ้านเลขที่ 109 จากพรรคประชาธิปัตย์ไปได้

ต่อมาในการเลือกตั้ง ปี 2566 ธีรรัตน์ ลงสมัครและชนะการเลือกตั้งอีก โดยได้รับคะแนนเสียง 34,749 คะแนน เอาชนะ นายชุมพล หลักคำ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เพียง 4 คะแนน 

ถือเป็นผู้ได้ส.ส.กทม.คนเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่ชนะได้รับการเลือกตั้ง และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)