วันนี้ (3 พ.ย. 66) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส .ส. เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 รวม 90 ราย
โดยในส่วนของ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ แบงค์ ส.ส.กทม. เขต 9 (เขตบางเขน ยกเว้นแขวงท่าแร้ง เขตจุตจักร เฉพาะแขวงจันทรเกษม และแขวงเสนานิคม เขตหลักสี่) แจ้งสถานะโสด มีทรัพย์สินรวม 400,700,006 บาท มีหนี้สินเป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น รวม 229,749 บาท
ทรัพย์สินแบ่งเป็น เงินสด 11,050,679 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินสกุลตราต่างประเทศ และเงินสดอีกจำนวน 10 ล้านบาท เป็นเงินหมุนเวียนฉุกเฉินสำหรับธุรกิจและใช้ส่วนตัวเนื่องจากช่วงโควิด 19 ระบาด ธนาคารไม่ได้เปิดบริการ เงินฝาก 10 บัญชี 24,806,930บาท เงินลงทุน บิตคอยน์ 0.423442 เมื่อปี 64 มูลค่า 390,552 บาท
ที่ดิน 18 แปลง ใน จ.สระบุรี ปทุมธานี และ อยุธยา 107,852,800 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 71,587,500 บาท โดยเป็นบ้านเดี่ยว 4 ชั้นถนนเชย์นีวอล์ค เขตเคนซิงตัน และ เชลซี ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซื้อมา เมื่อ 31 มี.ค. 2564 มูลค่า 70,087,500 บาท และ ระบบไฟฟ้า เวที ห้องน้ำระบบสาธารณูปโภค บนโฉนดที่ดินใน จ.สระบุรี มูลค่า 1.5 ล้านบาท
ยานพาหนะ 4 คัน 23,430,000 บาท เป็น Mercedes Benz มูลค่า 8 ล้านบาท Porsche มูลค่า 5.6 ล้านบาท ทั้ง 2 คัน ได้มา เมื่อ 19 พ.ค. 66 Toyota Alphard มูลค่า 2.8 ล้านบาท ได้มาเมื่อ 24 พ.ค. 66 Rolls-royce มูลค่า 7,031,000 บาท ได้มาเมื่อ 23 มิ.ย. 66
สิทธิและสัมปทาน 63,676,037 บาท ในจำนวนนี้เป็นทะเบียนรถ 4 รายการ มูลค่า 16,005,000 บาท เงินมัดจำโต๊ะ Hermes มูลค่า 416,742 บาท สัญญาขายหุ้น 4 บริษัทที่เคยดำรงตำแหน่งก่อนเป็น ส.ส. คือ คือ บจก.แอลฟา คลินิกเวชกรรม , บจก. ใกล้ฉัน เฟสติวัล บจก.โฮมแลนด์ กรุ๊ป และ บจก.โฟร์ แอล ฟาส์ รวม 47 ล้านบาท
ส่วนทรัพย์สินอื่น 97,904,506 บาท ทั้งหมดเป็นสินค้าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น Hermes Versace Gucci Dior Armani Prada Louis Vuitton Chanel Patek Philippe Franck Muller
อาทิ ชุดสูททักซิโด้ เสื้อสูท เสื้อเชิร์ต แจ็คเก็ตหนัง เสื้อกันหนาว เสื้อยืด เสื้อโปโล รวม 219 รายการ กางเกง กางเกงยีนส์ 46 รายการ เนคไท 78 รายการรองเท้า 63 รายการ เข็มขัดกระเป๋า 32 รายการ นาฬิกา 15 รายการ เก้าอี้ โต๊ะคอนโซล โซฟา กระดานหมากรุก แจกันของ Hermes โทรศัพท์ Vertu กำไลทองคำ ทองคำแท่งหนัก 10 บาท ชุดไม้กอล์ฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ แจ้งมีรายได้ต่อปี 48,362,720 บาท จากเงินเดือน ส.ส 1,362,720 บาท ขายหุ้น 47 ล้านบาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 3.9 ล้านบาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค 2.4 ล้านบาท ค่าท่องเที่ยว 1 ล้านบาท เงินบริจาค 500,000 บาท
เปิดประวัติ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์
สำหรับประวัติ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เกิดเมื่อ 19 ก.ค. 2534 ปัจจุบันอายุ 32 ปี เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของ นายวิสูตร์ มีนชัยนันท์
จบการศึกษา ประถมโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพมหานคร, มัธยมศึกษา King Edward's School, Witley (นักเรียนทุนฟิสิกส์), Surrey สหราชอาณาจักร
ปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้านการบริหารโครงการเพื่อการก่อสร้าง จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน และปริญญาโทด้านอสังหาริมทรัพย์การเงิน จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศสหราชอาณาจักร
นายศุภณัฐ เป็นหลานลุง นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตรมช.สาธารณสุข 2 สมัย, ประธาน ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และ อดีต ส.ส.กทม 4 สมัย และ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และ ส.ก.มีนบุรี 4 สมัย พรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 เป็นหลานของ ดร.สุธี มีนชัยนันท์ ผู้นำชาวไทยเชื้อสายจีน ประธานกิตติมศักดิ์ถาวรหอการค้าไทย-จีน มหาเศรษฐีที่ดินหลายหมื่นล้านบาท
แบงค์-ศุภณัฐ มีพี่น้องชายล้วน 4 คน คือ น.พ.ณัฐภัทร มีนชัยนันท์, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์, นายบอส มีนชัยนันท์ และ นายกษิดิ์เดช มีนชัยนันท์
ด้านการทำงาน หลังจากสำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แบงค์-ศุภณัฐ ได้เดินทางกลับมาทำธุรกิจของตนเอง และของครอบครัว รวมกว่า 6 บริษัท ครอบคลุมทั้งด้าน ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ขนส่ง และ การแพทย์ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาธุรกิจในต่างประเทศ
เส้นทางการเมือง ศุภณัฐ ได้เข้าร่วมอุดมการณ์กับพรรคก้าวไกลหลังจากได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค เมื่อปี 2565 และได้รับเลือกเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรค เขตหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่เนื่องจากมองกว่าเขตดังกล่าวอยู่ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันออกที่ “ตระกูลมีนชัยนันท์” ตระกูลดังแห่งกรุงเทพตะวันออก มีเครือข่ายอิทธิพล จะทำให้เกิดข้อครหาต่อตนเอง และพรรคก้าวไกลได้ จึงได้ขอปฏิเสธที่จะลงสมัครเลือกตั้งในเขตดังกล่าว
จนเมื่อเดือน ก.พ. 2566 หลังจากมีการลาออกของผู้สมัครส.ส. ในเขตพญาไท-จตุจักร เนื่องจากปัญหาภายในพรรค และข้อเรียกร้องเรื่องการจัดสรรลำดับส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ลงตัว กรรมการบริหารพรรคจึงได้ติดต่อทาบทาม ศุภณัฐ อีกครั้ง ขณะที่เจ้าตัวเดินทางไปทำธุระที่ประเทศอังกฤษ หลังเดินทางกลับไทย ศุภณัฐจึงได้ตอบตกลงที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งในเขตดังกล่าวกับพรรคก้าวไกล
ศุภณัฐ เคยเปิดใจถึงเหตุผลที่เลือกลงสมัครส.ส. กับพรรคก้าวไกล เพราะเป็นพรรคที่ตรงไปตรงมา จุดยืนชัดเจนที่สุด และมีผลงานเด่นชัดที่สุดในการต่อต้านระบอบเผด็จการ และ ต่อสู้ทุนผูกขาด
หลังจาก กกต. ได้มีการตัดแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ศุภณัฐ ได้ลงเลือกตั้งในกทม.เขตเลือกตั้งที่ 9 โดยจับฉลากได้หมายเลข 10 พร้อมใช้แคมเปญ "แบงค์10" ในการหาเสียง
ผลการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พ.ค. 2566 แบงค์-ศุภณัฐ ชนะการเลือกตั้งในกทม.เขต 9 ด้วยคะแนน 50,132 คะแนน สูงสุดในกรุงเทพมหานคร เป็น ส.ส.กทม. สมัยแรก โดยทิ้งห่างจากอันดับ 2 นายอนุสรณ์ ปั้นทอง แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนนทิ้งห่างกว่า 30,000 คะแนน นับเป็นปรากฏการณ์ “ล้มช้าง” ที่ใหญ่ที่สุดใน กทม. เนื่องจากนายอนุสรณ์ เป็น ส.ส.กทม. 5 สมัย และ ส.ก. 2 สมัย มากที่สุดในกทม. แต่แพ้ให้กับ ศุภณัฐ ที่มีเวลาหาเสียงสั้นที่สุดในพรรคก้าวไกล เพียง 2 เดือนเท่านั้น
*ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากวิกิพีเดีย