วันที่ 24 พ.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าการดำเนินการกับขบวนการค้าหมูเถื่อน ว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้เร่งรัดดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งหมด ในการสืบสวนและหาพยานหลักฐานดำเนินคดี กับกลุ่มเหล่านี้ที่ถือเป็นขบวนการองค์กรอาชญากรรม ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร โดยองค์กรอาชญากรรมดังกล่าว ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ นายทุน ข้าราชการการเมือง อดีตข้าราชการ
จากการตรวจสอบพบว่า มีความเกี่ยวพันธ์กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงต้องดำเนินการส่งสำนวนไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียบร้อย เพื่อให้ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องกับของกลาง 161 ตู้ ซึ่งองค์กรอาชญากรรมนี้มีการนำเข้ามาในปี 2564 ส่วนอีก 2,385 ตู้ จะเร่งดำเนินคดีโดยทำควบคู่ไปกับ ปปง. ในการยึดทรัพย์ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ต้องหา1 ราย ที่มอบตัวแล้ว
“เราจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่สาวไปถึง ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคนในระดับใด หรือ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ ในสัปดาห์หน้าจะเห็นความคืบหน้าในเรื่องนี้ เราไม่เอาไว้ ถึงจะดำเนินการทั้งหมด ผมไม่กังวลในเรื่องนี้ ว่าจะมีผลกับการทำหน้าที่ เพราะทำตรงไปตรงมา และนายกรัฐมนตรีได้ไฟเขียวพร้อมกำชับให้ดำเนินการเต็มที่” พ.ต.ต.สุริยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถเปิดเผยข้าราชการที่ระบุว่าเข้าเกี่ยวข้องได้หรือไม่ พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า เป็นอดีตข้าราชการการเมือง แต่มีข้อจำกัดกฎหมายในการเปิดเผยตัว โดยดีเอสไอต้องส่งรายละเอียดไปถึง ป.ป.ช.ดำเนินการก่อน
เมื่อถามว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีจำนวนมากแค่ไหน อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า มีพอสมควร ยืนยันว่าเรื่องทุกอย่างดีเอสไอทำตรงไปตรงไป เชื่อว่าอีกไม่นานสังคมต้องรู้ความจริง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าสามารถเปิดเผยรายชื่อให้ประชาชนรู้ได้หรือไม่ว่าข้าราชการ อดีตข้าราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นหลัก 10 ราย ที่เป็นข้าราชการ และอดีตข้าราชการ รวมถึงข้าราชการการเมืองไม่ถึง 10 คน
แต่เมื่อขยายไปถึงใครก็จะดำเนินการ ในขั้นนี้ขอสงวนรายชื่อไว้ก่อน เมื่อส่งสำนวนไป ป.ป.ช. ไม่อาจเปิดเผยได้ นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มทุน ขบวนการบริษัท ที่เข้ามาเกี่ยวข้องที่ต้องสาวต่อไป เนื่องจากข้าราชการไม่ได้เอามาเพื่อขายเอง แต่มีการสั่งในล็อตที่นำเข้ามาผิดกฎหมาย
ทั้งนี้การดำเนินการกับองค์การอาชญากรรมขนาดใหญ่ ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างดี ที่ส่งข้อมูลมาถึง และหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมขอให้แจ้งเข้ามาดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบให้เป็นไปตามนโยบายที่ รมว.ยุติธรรม สั่งการ และคาดว่าภายในต้นปี 2567 จะชัดเจนมากขึ้น