วันนี้ (4 มกราคม 2567) ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหม ที่ถามว่ายามวิกฤตทำไมลดเช่นในยุคนี้ วิธีคิดของกระทรวงกลาโหมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ประเทศ ประเทศสงบจัดแบบหนึ่ง มีภัยคุกคามต้องจัดอีกแบบหนึ่ง แต่จริงๆ แล้ว ไม่ลดงบก็เหมือนลด คือ เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลง เทียบกับงบประมาณทั้งหมดที่สูงขึ้น 9% กลาโหมเพิ่ม 1.2 % -1.3 % ถ้าเปรียบเทียบกับจีดีพีของประเทศพัฒนาแล้ว เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา งบกลาโหม 3%
นายสุทินกล่าวว่า เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ รุ่น S26T ของจีน ขอความเป็นธรรม ทำไว้รัฐบาลที่ผ่านมา ตนเข้ามาแก้ แก้อย่างไรก็โดนทั้งสองทาง เรือดำเนินจ่ายเงินไปแล้วหลายงวด ถ้ายกเลิกแล้วได้เงินคืน ตนยกเลิกพรุ่งนี้เลย แต่ถ้ายกเลิกแล้วเงินไม่ได้คืน เรื่องอะไรที่เราจะไปเสียเงินทิ้ง 6,000 กว่าล้านบาท วันนี้ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่ไทยทำร่วมกับจีนสูงจะมีผลประโยชน์ร่วมกัน 200,000 กว่าล้านบาท แต่ถ้าเรายอมยกเลิก 6,000 ล้าน เราเสีย 200,000 ล้านบาท ไม่ฉลาด
“เพื่อให้รอบคอบที่สุด เพื่อเป็นทางออกที่จะอ้างใครได้ทั้งนั้น แม้แต่อ้างกับประเทศจีน วันนี้จึงได้ถามไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ว่าข้อตกลงที่ทำกันไว้ เมื่อ 2-3 ปีเก่า วันนี้ยกเลิกได้ไหม ถ้ายกเลิกแล้วทำต่อ ทางไหนถึงจะไม่ผิด รออยู่วัน สองวันนี้ ไม่เกินสองวัน อสส.จะตอบมา เราจะได้แนวทางเดิน วันนี้เรื่องเรือดำน้ำจะจบอย่างไรต้องรอออส.กลับมา อาจจะเดินหน้าแบบเดิม แต่เงิน 6,000 ล้านบาทต้องไม่เสียไป”นายสุทินกล่าว
นายสุทินกล่าวว่า เรื่องปฏิรูปกองทัพ ปรับลดกำลังพล ตนได้ตั้งคณะทำงานเรื่องการปรับลดกำลัง มีแผนลดลงกำลังพลเป็นลำดับ แต่ต้องใช้เวลา อัตรานายพลที่ในปี 2570 จะลดลง 50% หรือจาก 700 คน เหลือ 300 คน จะมีโครงการเออร์รี่รีไทร์ ซึ่งจะทำให้กำลังพลลดลงกว่านี้เร็วกว่าปี 70 โดยการปรับลดกำลังพลจะใช้ 3 โมเดล 1.ยุบหน่วยที่ไม่จำเป็น 2.ควบรวมหน่วยที่มีภารกิจใกล้เคียงกัน 3.ปิดอัตราบางอัตราหากกำลังพลเกษียณ ไม่บรรจุเพิ่ม
"ส่วนเรื่องเลิกเกณฑ์ทหาร ปีนี้จากเดิม 100,000 คน จะลดลงเหลือ 80,000 คน ใน 4 ปีสมัครใจเกณฑ์ทหาร 100% โดยมาตรการจูงใจ เช่น ไม่หักเงินเดือน หรือ ค่าประกอบเลี้ยง ได้ศึกษาต่อไม่ต้องหยุดกลางคัน"นายสุทินกล่าว