วันนี้(10 ม.ค. 67) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วย นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายอานนท์ กิ่งแก้ว แกนนำกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศ.ป.ป.ส.) และนายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนํากลุ่ม คปท. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีจัดกิจกรรมชุมนุม "ทวงคืนความยุติธรรม" ระหว่างวันที่ 12 - 14 มกราคม 2567
นายพิชิต เปิดเผยว่า คปท.และเครือข่ายนัดชุมนุมค้างคืนที่หน้าทำเนียบรัฐบาลในช่วงระหว่างวันที่12-14 ม.ค นี้ โดยจะปักหลักชุมนุมที่เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
ส่วนสาหตุที่นัดหมายชุมนุมเพราะต้องการแสดงจุดยืนและส่งสัญญาณไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องที่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าทำการรักษาตัวอยู่ท่รพ.ตำรวจเป็นเวลา 139 วัน ซึ่งเกินจากที่ระเบียบกรมราชทัณฑ์กำหนด
ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังข้าราชการทางการเมือง และข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูคดีจำนำข้าวให้ดี เพราะมีข้าราชการจำนวนมากที่ติดคุกเพราะตกเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือนักการเมืองให้ทุจริตคอรัปชั่น โดยครั้งนี้มองว่าเป็นการทุจริตต่อกระบวนการยุติธรรมไทย
นอกจากนี้ ทางคปท.จะเดินทางไปที่ป.ป.ช. ขอหารือกับเลขาธิการปปช.ให้มีการไต่สวนเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้หลังได้ยื่นหนังสือไปก่อนหน้านี้
ด้าน นายวัชระ กล่าวว่า สนับสนุนการต่อสู้ของคปท. ซึ่งยอมรับว่าตนเป็นผู้สนับสนุนในฐานะอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ และอาจจะเป็นจำเลยร่วมในอนาคต โดยกล่าวว่าตนเป็นต้นเรื่งที่ยื่นหนังสือคณะกรรมาธิการการตำรวจ เข้าไปตรวจสอบการรักษาตัวของนายทักษิณ ว่าได้ทำการรักษาที่ชั้น 14 จริงหรือไม่ โดยคณะกรรมาธิการจะไปดูวันที่ 12 ม.ค.นี้
ขณะเดียวกัน นานอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมปกป้องสถาบัน กล่าวว่า จากการติดตามข่าวต่างประเทศ พบว่านายทักษิณเคยถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการกล่าวพาดพิงสถาบัน ดังนั้นตนขอให้นายทักษิณ ต้องรับโทษในคดีมาตรา 112 ด้วย เพราะที่ผ่ายมาตั้งแต่ ปี 2563 ทางกลุ่ม ศปปส. ได้แจ้งความเาผิดมาตรา112 กับบุคคลจำนวนมาก เหลือเพียงแค่นายทักษิณ ชินวัตร รายเดียว