นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ให้ดำเนินการไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งข้าราชการประจำ และข้าราชการการเมือง กับพวก มีพฤติการณ์ หรือ การกระทำปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ทุจริต เอื้อประโยชน์กับ นช.ทักษิณ ชินวัตร และผิดประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่
กรณีนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ถูกส่งตัวออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ณ โรงพยาบาลตำรวจ จนเกิดเป็นกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ปัจจุบันครบกำหนด 120 วัน ตามกำหนดของกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 แล้ว
จึงมีความประสงค์ขอให้ระงับการส่งตัวนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ไปคุมขังนอกเรือนจำ
และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงขอให้เปิดเผยรายงานของกรมราชทัณฑ์ ที่รายงานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ภาพถ่ายของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่พักรักษาตัวอยู่ภายนอกเรือนจำให้ประชาชนทราบต่อไป ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น
ล่าสุด ตนได้รับหนังสือจากกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 ที่ ยธ 02019/485 ความว่า ตามหนังสือร้องทุกข์ของผู้ร้อง ฉบับลงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ผู้ร้องได้มีหนังสือเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมพิจารณาแล้วโดยความเห็นชอบของปลัดกระทรวงยุติธรรมขอเรียนว่า
กรณีเรื่องร้องเรียนของผู้ร้อง เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้ร้อง จึงได้ส่งเรื่องไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป หากผลการพิจารณาดำเนินการเป็นประการใด กรมราชทัณฑ์จักได้แจ้งให้ผู้ร้องทราบโดยตรง ซึ่งผู้ร้องสามารถติดตามผลการดำเนินการได้ที่ กรมราชทัณฑ์ เลขที่ 222 ถนนนนทบุรี 1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 โทร. 0 2967 2222
นายวัชระ กล่าวว่า หนังสือฉบับลงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ฉบับนี้ ตนได้ยื่นหนังสือถึง นายทวี สอดส่อง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 5 ข้อคือ
1. ปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ “อำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม” และพันธกิจ ข้อ 3 “เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายและพัฒนากระบวนการยุติธรรม” แต่ยุคท่านทวี สอดส่อง ยิ่งเหลื่อมล่ำไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายแต่ประการใด กลับหย่อนยานและเอื้อประโยชน์ให้ นช.ทักษิณ ชินวัตร
2. นช.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหมายเลข 6650102668 ไม่ได้กรอกแบบประวัติ ร.ท.101 แบบประวัตินักโทษ จำนวน 4 หน้า ในฐานข้อมูลแม้แต่บรรทัดเดียว ไม่ลงรายละเอียดเหมือนนักโทษทั้ง 4 แสนราย นช.ทักษิณ ไม่ได้ให้ข้อมูล เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยก็ไม่กล้าถามยังไม่ได้สอบประวัติ ไม่ได้ทำตามขั้นตอนแต่ประการใด จึงขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าพนักงานทะเบียนเรือนจำพิเศษกรุงเทพ (ขอให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยไว้เป็นพยาน)
3. ขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่เกี่ยวข้อง ที่ทำรายงานเท็จและช่วยเหลือ นช.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษไม่ต้องจำคุกอยู่ในเรือนจำแต่อ้างว่าไปรักษาพยาบาลนอกเรือนจำ (ขอให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยไว้เป็นพยาน)
4. ขอสำเนารายชื่อพัศดีทั้งหมดพร้อมลายเซ็นและภาพถ่ายตามที่นายนัทที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพซึ่งได้ให้ถ้อยคำกับคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ว่ามีภาพถ่าย นช.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจทุก 2 ชั่วโมง ขอให้เปิดเผยภาพถ่ายและให้ระงับยับยั้งการที่จะส่งตัว นช.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษไปคุมขังนอกเรือนจำเพราะมีการทำรายงานเท็จมาตั้งแต่ต้น
5. ขอให้เปิดเผยรายงานกรมราชทัณฑ์ที่รายงานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและภาพถ่าย นช.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษพักรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำครบ 120 วันเพื่อเปิดเผยให้ประชาชนทราบด้วย
“แต่ปรากฏว่า นายทวี ไม่ตั้งคณะกรรมการสอบข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ตามที่ นายวัชระร้องเรียนแต่อย่างใด ซึ่งหนังสือที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมตอบมานั้น ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐนิติธรรม ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่ตรงไปตรงมา เพราะคำถามที่ผมใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถามรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรมนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี
และยิ่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้าราชการกรมราชทัณฑ์ เป็นอำนาจของกระทรวงโดยตรง การส่งไปเรื่องไปให้กรมราชทัณฑ์ จึงมิใช่เป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้ร้อ งตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าวอ้างแต่อย่างใด นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงควรทบทวนในเรื่องนี้ต้องเป็นข้าราชการมืออาชีพ อย่าตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่มามีอำนาจชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวอีกด้วยว่า นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่ต้องให้สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ตอบหนังสือผมแก้เกี้ยว เพราะประชาชนคาใจกันทั้งประเทศ ว่า ทำไมนักสร้างสันติภาพของท่านถึงไม่ติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว ป่วยทิพย์? เอื้อประโยชน์กันหรือไม่
แต่ควรเตรียมเอกสารไปชี้แจงกับป.ป.ช.ในอนาคตจะดีกว่า ทั้งข้อกฎหมายและจริยธรรมร้ายแรง และเรื่องนี้ต้องจบที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ไม่ใช่จบที่กรมราชทัณฑ์อย่างแน่นอน