“บิ๊กต่าย”แรงแซง“บิ๊กโจ๊ก”จ่อผงาดผบ.ตร.คนที่ 15

23 มี.ค. 2567 | 02:09 น.

“บิ๊กต่าย”แรงแซง“บิ๊กโจ๊ก”จ่อผงาดผบ.ตร.คนที่ 15 : รายงานพิเศษ โดย....ทีมข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3977

KEY

POINTS

 

  • “นายกเศรษฐา” สั่งเด้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. และ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รองผบ.ตร. เข้ากรุทำเนียบฯ แล้วตั้งทีมสอบสวนปมเว็บพนันออนไลน์ เป็นเวลา 60 วัน

 

  • นายกฯ ในฐานประธาน ก.ตร. แต่งตั้ง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัตน์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 2 รักษาการในตำแหน่ง ผบ.ตร. ไปพลางก่อน

 

  • ณ เวลานี้ถือว่า “บิ๊กต่าย” มาแรงแซง “บิ๊กโจ๊ก” ที่จะผงาดบนเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 15 ในเดือนตุลาคม 2567 นี้
     

ถือเป็นข่าวช็อกวงการ “สีกากี” เมื่อ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจในฐานประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) สั่ง “เด้งฟ้าผ่า” บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 14 และ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เข้ากรุ ปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี 

คำสั่ง “เด้ง” ดังกล่าว เกิดจากปัญหาความขัดแย้งกันระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นพิษคดีเว็บพนันออนไลน์ จนมีการฟ้องร้อง กล่าวหากันเกิดขึ้น 
 

ฟางเส้นสุดท้ายเด้ง 2 บิ๊กตร.

โดย “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่นำไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่าง “เด็ดขาด” ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) น่าจะมาจากการออกมา “แฉ” เรื่องเส้นทางเงินจากเว็บพนันที่โยงใยไปสู่ “นายพลตำรวจ”  และ ครอบครัว

ที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ อดีตผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล “ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก” ออกมาแถลงเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 เปิดโปงความเชื่อมโยงในเส้นทางการเงินของ น.ส.พิมพ์วิไล แอดมินเว็บพนัน BNK MASTER ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบัญชีของ นายพล “ต.” ภรรยา “ก.” พี่สาว “จ.” พี่ชาย “ช.” ...ซึ่งทีมทนายความของบิ๊กโจ๊ก ระบุว่า วงเงินหมุนเวียนในบัญชีของคดีเว็บ BNK MASTER รวมกว่า 400-600 ล้านบาท

ปฏิบัติการ “เด้งฟ้าผ่า” 2 นายพลตำรวจดังกล่าว เกิดขึ้น ในวันพุธที่ 20 มี.ค. 2657 หลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดแถลงข่าวร่วมกัน ที่ สตช. ประกาศยุติความขัดแย้งคดีความเว็บพนันออนไลน์ พร้อมเสนอนายกฯ ให้รวมสำนวนคดีเว็บพนันทั้ง สน.เตาปูน และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่งไปให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ 

ก่อนที่ ในเวลา 13.30 น. นายกฯ จะได้ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมแต่งตั้ง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. ทำหน้าที่รักษาการแทน ผบ.ตร. 

ตั้งทีมสอบ 60 วัน

“นายกฯ เศรษฐา” ระบุเหตุผลว่า การออกคำสั่งดังกล่าวเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความสะดวก ดูแลประชาชนได้เต็มที่ ไม่มีการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม จึงได้มีคำสั่งย้ายทั้ง 2 คน มาปฏิบัติราชการชั่วคราว 60 วัน ที่สำนักนายกฯ ในระหว่างที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

“ทั้งสองท่านยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองท่าน การเอาท่านออกไปจากตำแหน่งที่มีอำนาจ หากตรวตสอบแล้วปราศจากมลทินแล้ว กลับเข้ามาอย่างสง่างาม ...หากครบกำหนด 60 วันแล้ว ก็อาจจะพิจารณาให้ทั้ง 2 คน กลับมาปฏิบัติหน้าที่เดิม” นายกฯ เศรษฐา กล่าว  

สถานการณ์ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นับแต่นี้ไปคงจะสงบเรียบร้อย ไม่ปรากฏภาพความขัดแย้งใดขึ้นอีก ภายใต้การบัญชาการ “ขัดตาทัพ” ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ

            “บิ๊กต่าย”แรงแซง“บิ๊กโจ๊ก”จ่อผงาดผบ.ตร.คนที่ 15          

“บิ๊กต่อ”นับวันรอเกษียณ

สำหรับ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็นั่งนับวันรอที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย. 2567 นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกราว 6 เดือน

ขณะที่  บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ต้องรอดูว่า ผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่นายกฯ ตั้งขึ้น จะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงคดีความเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ที่ถูกฟ้องร้องกล่าวหา ซึ่งอยู่ในมือ ป.ป.ช.ด้วย 

แต่ก็เชื่อว่าคดีความของ “บิ๊กโจ๊ก” กว่าจะรู้ผลคงใช้เวลานาน ไม่น่าจะรู้ผลก่อนที่จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ประจำ 2567 นี้ 
โดยเฉพาะในตำแหน่ง “ผบ.ตร.คนที่ 15” ที่จะมาแทน บิ๊กต่อ

บิ๊กต่ายเต็ง 1 ผบ.ตร. คนที่ 15

เมื่อโฟกัสไปที่ “ว่าที่ผบ.ตร.คนที่ 15” มี “นายพลตำรวจ” ที่อยู่ในไลน์เข้าชิง ผบ.ตร.คนใหม่ได้ 4 คน  

คนแรก ยังคงเป็น “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” รอง ผบ.ตร. อาวุโส อันดับ 1 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 47) จะเกษียณอายุราชการในปี 2574  

บิดาเคยทำงานใกล้ชิด “บ้านดามาพงศ์” อยู่กับ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ บิดา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 

“บิ๊กโจ๊ก”มีสายสัมพันธ์อันดีกับ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ    

ในยุค พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ทาง “บิ๊กโจ๊ก” ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานด้านความมั่นคง 

ถัดมา บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 2 เป็น นรต.รุ่น 41 คนสนิท “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. คนที่ 12 จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 

ถือเป็นคนหนึ่งที่มีความโดดเด่นทำงานด้านบริหารมาตลอด ไม่มีแผลใดๆ

ในยุค พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ทาง “บิ๊กต่าย” ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปราม  

                       “บิ๊กต่าย”แรงแซง“บิ๊กโจ๊ก”จ่อผงาดผบ.ตร.คนที่ 15

อาวุโสลำดับที่ 3 เป็น พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.รุ่น 39 เกษียณอายุราชการในปี 2568 

และคนสุดท้ายคือ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. นรต.42 สายตรง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. จะเกษียณอายุราชการในปี 2569

เมื่อเทียบฟอร์มดู คนที่จะเป็นคู่ชิง ผบ.ตร.คนใหม่ มีอยู่ 2 คน คือ “บิ๊กต่าย” กับ “บิ๊กโจ๊ก” 

แต่คนที่มีโอกาสสูงกว่าที่จะคว้าเก้าอี้ “ผบ.ตร.คนที่ 15” ไปครอง คือ “บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” อาวุโสอันดับ 2 ซึ่งเหลือเวลาราชการอีก 2 ปี 

ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” แม้จะมีอาวุโสอันดับ 1 เมื่อมาเจอมรสุมโยงใยคดีเว็บพนันออนไลน์ ประกอบกับยังเหลือเวลาราชการอีกร่วม 7 ปี จึงไม่น่าจะมีโอกาสได้ขึ้นเป็น ผบ.ตร. ในรอบนี้ 

ณ เวลานี้ถือว่า “บิ๊กต่าย” มาแรงแซง “บิ๊กโจ๊ก” ที่จะผงาดบนเก้าอี้ “ผบ.ตร.คนที่ 15” ในเดือนตุลาคม 2567 นี้

++++++++

“บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก”เปิดใจถูกเด้ง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เปิดใจหลังเข้ารายงานตัวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 กรณีถูกสั่งย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานจิตอาสา 

“เชื่อว่าในการบริหารราชการแผ่นดิน นายกฯ ทำหน้าที่บริหารได้อย่างถูกต้อง ผมรับและยินดีอยู่แล้ว ไม่ได้คิดหรือกังวลอะไร”

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนยอมรับว่าเป็นหัวหน้าหน่วย ทำให้องค์กรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้ เป็นความบกพร่อง เมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารต้องกำกับดูแลในส่วนนี้ 

“ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แม้อายุราชการจะเหลือน้อยก็ตาม แต่จะช้าหรือเร็วอย่างไรก็ต้องลุก งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา วันนี้พี่ถอดหัวโขน อยู่แค่ตำแหน่ง ผบ.ตร. หัวโขนในการปฏิบัติหน้าที่ เราก็ถอดออก มานั่งที่นี่ก็ใส่หัวโขนที่นี่ โรงละครของเราเลิกแล้วก็เก็บฉาก เก็บเครื่องแต่งตัว ปิดไฟ หอบเสื่อกลับบ้านเราก็เท่านั้น ชีวิตเรามีเท่านี้” 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ดูงานด้านที่ปรึกษากฎหมาย พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารต่างๆ และการกระจายอำนาจ ซึ่งเชื่อว่าจะทำหน้าที่ได้ดี 

“เรื่องใน สตช.เป็นการแก้ไขของนายกฯ เพื่อให้เกิดความสามัคคีในหน่วยงาน ไม่มีสายไหน มีแต่เป็น รองผบ.ตร. เมื่อตอนนี้ให้มาทำหน้าที่นี้ก็ต้องมาทำ และเพื่อส่วนรวม เรื่องส่วนตัวต้องทิ้งไปให้หมด”