“สรรเพชญ”ตั้งฉายา“รัฐบาลสุกเอาเผากิน”ชี้บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว

03 เม.ย. 2567 | 11:33 น.
อัปเดตล่าสุด :03 เม.ย. 2567 | 11:39 น.

“สรรเพชญ”ตั้งฉายา “รัฐบาลสุกเอาเผากิน” ชี้ไม่เข้าใจโจทย์ประเทศ และโจทย์เศรษฐกิจที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ ส่งผลให้มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่ประสบความสำเร็จ

วันนี้ (3 เม.ย.67) ที่รัฐสภา ได้มีการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่มีการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 152  นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายสรุปความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา พร้อมมอบฉายา “รัฐบาลสุกเอาเผากิน”

นายสรรเพชญ เริ่มต้นการอภิปราย โดยชี้ให้เห็นข้อจำกัดของรัฐบาลผสมนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า อาจมีปัญหาเรื่องการนำนโยบายหาเสียงไปปฏิบัติ เห็นได้จากนโยบายพรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาล ที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา หรือ มีสาระสำคัญผิดเพี้ยนไปจากคราวหาเสียง ประกอบรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นในการจัดทำงบประมาณปี 2567 และการเบิกจ่ายงบฯ ที่ล่าช้าไปหลายเดือน 

นายสรรเพชญ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีข้อจำกัด แต่ไม่สามารถปฏิเสธความล้มเหลวในการบริหารงานได้อย่างน้อย 2 เรื่อง คือ การจัดทำ “นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) เติมเงินให้ประชาชน 10,000 บาท” และการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในปัจจุบัน 

                              สรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงลา พรรคประชาธิปัตย์

สำหรับ “นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) เติมเงินให้ประชาชน 10,000 บาท” นายสรรเพชญ กล่าวว่า เป็นเรื่องความรับผิดชอบทางการเมืองของรัฐบาล เพราะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ตามที่หาเสียงไว้ พร้อมเห็นว่า ประเด็น “วิกฤตเศรษฐกิจ” ที่รัฐบาลแถลงว่าจำเป็นต้องเติมเงินในระบบนั้น ก็เป็นเพียงวาทกรรมที่แต่งขึ้นมา 

ด้านภาพรวมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นายสรรเพชญ เห็นว่า รัฐบาลล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงเพราะมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น การลดค่าไฟฟ้า น้ำมัน ค่าครองชีพ กระทั่ง มาตรการพักหนี้ ล้วนเป็นเพียงมาตรการเฉพาะซึ่งผ่านมาแล้ว 6 เดือน กลับไม่เห็นมาตรการต่อยอดที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน 

ทั้งนี้ นายสรรเพชญ ยกตัวเลขการประเมินหนี้ครัวเรือนของไทยที่มีมากถึง 16.2 ล้านล้านบาท หรือ คิดเป็น 90.9% ของ GDP สะท้อนว่า มาตรการระยะสั้นของรัฐบาลไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น พร้อมเปรียบเปรยว่า “พักหนี้ไปอีก 10 ปี ปัญหาหนี้ของชาวบ้านมันก็ไม่หมด มันก็บอกอยู่แล้วว่า แค่พักหนี้” 

นายสรรเพชญ ยังได้ท้วงติง นายเศรษฐา เรื่องการนำโครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) ไปเดินสายโรดโชว์ (Roadshow) ในต่างประเทศว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังไม่มีข้อยุติใดๆ เป็นเพียงแนวคิดที่รอการตกผลึก ซึ่งเกรงว่าจะนำไปสู่การทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอนาคต

                        สรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงลา พรรคประชาธิปัตย์  

พร้อมกันนี้นายสรรเพชญ ได้ยกตัวอย่างพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจอื่น ๆ ของไทย ที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญ เช่น EEC, ระเบียงเศรษฐกิจทั้ง 4 ภาค, ตลอดจนเขตพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนครับ พื้นที่เขตเศรษฐกิจดังกล่าว ยังต้องการเติมเต็มในหลายด้านทั้งเงินทุน นวัตกรรม และ แรงงานฝีมือ 

ในตอนท้าย นายสรรเพชญ ได้กล่าวสรุปว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา มีลักษณะ “สุกเอาเผากิน” เพราะไม่เข้าใจโจทย์ประเทศ และโจทย์เศรษฐกิจที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ ส่งผลให้มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่ประสบความสำเร็จ