ทักษิณ-ชัยธวัช สร้างดาวคนละดวง ผู้นำดีเอ็นเอชินวัตร-ก้าวไกลคำตอบสุดท้าย

วลีเด็ด-วรรคทองของ 2 ผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ คนหนึ่ง เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล-ชัยธวัช ตุลาธน อีกคนหนึ่ง เป็น “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ของพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ ชินวัตร” ทั้งสอง "สร้างดาวคนละดวง" 

"ทักษิณ" กำลังปั้น “ดาวผู้นำ-อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้เป็น “ผู้นำคนใหม่” ขณะที่ “ชัยธวัช” กำลังก่อร่าง-ขึ้นโครง สร้าง “สะพานเชื่อม” อดีตกับปัจจุบัน ท่ามกลางมรสุม "ยุบพรรค" 

พรรคเพื่อไทยเปิดภาพ-สำเนาเสียงของ "ทักษิณ" เข้ามาในงานประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 บางช่วงบางตอนได้พูดถึง "แพทองธาร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย-สายเลือดชินวัตร และ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีแห่งพรรคเพื่อไทย

ผมมั่นใจว่าอิ๊งค์จะสามารถนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก คือ เป็นดีเอ็นเอระหว่างผมกับคุณหญิง (พจมาน) ผสมกันเป็นอุ๊งอิงค์ เขาเอาส่วนที่เข้มแข็ง อดทน เด็ดขาด มาจากคุณหญิง แต่เขาเอาส่วนที่เป็น out going คือ พบปะผู้คน ทำการเมือง เข้าใจการเมืองแบบผม และเขาก็เรียนรู้จากแม่ จากพ่อมา เพราะเขาเป็นลูกคนเล็ก มาทั้งสองทาง

"ผมเชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ได้มาเชียร์ลูกนะ ในเมื่อผมทำได้ ดีเอ็นเอผมก็ต้องทำได้ และเขาก็มีดีเอ็นเอแม่ด้วย เขาก็ต้องทำได้ดีกว่าผมด้วย"

เป็นการวางตัวที่เหมาะของพรรคเพื่อไทย นายกฯเศรษฐา เหมาะที่จะลงไปในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างที่การเมืองมีหลายพรรค นายกฯเศรษฐาน่าจะทำได้ดี เพราะความมีประสบการณ์

ขณะที่ "ชัยธวัช" พูดก่อน-ระหว่างกล่าวเปิดการประชุมใหญ่พรรคก้าวไกลวันที่ 6 เมษายน 2567 ว่า ถ้าคุณแพทองธารจะสามารถเป็นผู้นำพรรค รวมถึงเป็นผู้นำประเทศในอนาคตและประสบความสำเร็จคงจะขึ้นอยู่กับความสามารถและศักยภาพของคุณแพทองธารเอง คงไม่เกี่ยวกับว่า มีพ่อเป็นใคร มีแม่เป็นใคร 

พวกเราทุกองคาพยพต้องช่วยกันทำงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติจริง พิสูจน์ด้วยการทำงานจริง แสดงให้สังคมไทยเห็น แสดงให้ผู้มีอำนาจได้ประจักษ์ว่า พรรคก้าวไกลไม่ใช่ภัยคุกคามของสังคมไทย พวกเราไม่ต้องกังวล มีแต่แสงสว่างอยู่ข้างหน้า 

“เราไม่ใช่ภัยคุกคามของใคร แต่พรรคก้าวไกลจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของสังคมไทย พรรคก้าวไกลจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสังคมไทยในอดีต เพื่อเดินหน้าไปสู่อนาคต เราจะเป็นคนที่เชื่อมอดีตที่มีข้อจำกัด ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เดินหน้าประสู่อนาคตให้พวกเราเท่าเทียมกัน เท่าทันโลก เราเท่านั้นเป็นคำตอบสุดท้าย”