ความคืบหน้าเกี่ยวกับกับปรับคณะรัฐมนตรี (ปรับ ครม.) จาก “รัฐบาลเศรษฐา 1” เป็น “รัฐบาลเศรษฐา 2” นั้น มีแนวโน้ม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะร่นเวลาปรับ ครม. มาเป็นช่วงหลังสงกรานต์ โดยไม่มีพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เข้ามาร่วมในครม.ครั้งนี้
เขย่ารมต.เพื่อไทย
ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีทั้งการปรับออก ปรับย้าย โดยรัฐมนตรี ที่ส่อ “หลุดจากเก้าอี้” ประกอบไปด้วย นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์
ขณะที่รัฐมนตรีที่อาจจะ “ย้ายกระทรวง” นายเศรษฐา ทวีสิน จากรมว.คลัง ไปนั่งควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ไปเป็น รมว.วัฒนธรรม มีการสลับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิชย์ รมว.วัฒนธรรม มาเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ขณะเดียวกัน ยังมี “รัฐมนตรีใหม่” ที่อาจได้เข้ามาทำหน้าที่ในครม.เศรษฐา 2 ประกอบไปด้วย นายพิชัย ชุณหวชิร จะเป็น รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง ทำหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็น รมช.คลัง
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ล้วนมีโอกาสเข้ามาเป็น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พปชร.คุมเกษตรเบ็ดเสร็จ?
ที่น่าจับตาคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แม้ตอนนี้มีรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ แต่การปรับครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) อาจจะยึดเบ็ดเสร็จ เป็นรัฐมนตรีของพรรคทั้งหมด จากรัฐมนตรี 3 คน จะเหลือรัฐมนตรีเพียง 2 คน
โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะผลักดันมือขวา นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พลังประชารัฐ เข้ามาเป็น รมช.เกษตรฯ ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เชียร์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ มาเป็น รมช.เกษตรฯ เช่นกัน
“สุชาติ”จ่อคัมแบ็กรมต.
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) มีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรี คนที่ส่อหลุดจากตำแหน่ง คือ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ โดยคนเข้าแทนอาจเป็น นายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำกลุ่มชลบุรี แต่ต้องดูว่า จะไปนั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงใด
นอกจากนี้ยังมี ตัวแทนของ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่ในการเลือกตั้งได้ส.ส.เข้ามา 6 คน อาจจะส่งตัวแทนมาเป็นรัฐมนตรี โดยกลุ่มนี้ได้รับการผลักดันจากแกนนำ นักการเมือง “ส.” ที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์
หากมีการปรับครม.เช่นว่านี้ จะทำให้ กระทรวงเกษตรฯ เป็นของ พรรคพลังประชารัฐ เบ็ดเสร็จ ขณะที่กระทรวงการคลัง เป็นของพรรคเพื่อไทย เบ็ดเสร็จ
ช่วงหลังสงกรานต์นี้ การเมืองอาจจะร้อนแรงขึ้นเล็กน้อย จากการ “ปรับ ครม.” เพราะคนที่นั่งเก้าอี้อยู่ก็คงไม่อยากลุกจากที่นั่ง ขณะที่ “คนใหม่”หลายคน ก็รอเวลาอยู่
+++
ปรับครม.เมื่อถึงเวลาเหมาะสม
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2567 ถึงความชัดเจนเรื่องการ ปรับ ครม. ซึ่งเวลานี้พรรคร่วมรัฐบาลเงี่ยหูฟังความชัดเจน ว่า เรื่องการปรับ ครม. สื่อสามารถถามตนได้ ซึ่งเปิดตัวอยู่ตลอดในเรื่องนี้ ไม่มีใครต้องมาเงี่ยหูฟัง
ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะมีการเพิ่มเติมรัฐมนตรีเข้ามาหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า “ก็มีอีกตำแหน่ง ตรงนั้นก็เดี๋ยวไปว่ากันเมื่อถึงเวลา”
เมื่อถามว่าโควตารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยกันบ้างหรือยัง นายเศรษฐา ตอบว่า “ในพรรคคงพูดคุยกัน เดี๋ยวคงเสนอขึ้นมา”
เมื่อถามว่าหากมีการปรับ ครม.จริง จะเป็นการปรับเล็กหรือปรับใหญ่ เนื่องจากจะมีแรงกระเพื่อม นายกฯ ถามว่า ปรับเล็กเล็กคืออะไร 3 ตำแหน่ง หรือ 6 ตำแหน่ง บางคนบอก 6 ตำแหน่งยังเล็กอยู่ อย่าไปพูดว่าปรับเล็กหรือใหญ่เลย เอาไว้ถึงเวลาเหมาะสมเกิดขึ้นเอง
เมื่อถามว่าการตัดสินใจปรับ ครม.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกฯ คนเดียว ตรงนี้จำเป็นต้องปรึกษาใครหรือไม่ หรือต้องให้เกียรติพรรคร่วมอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า การทำงานของตนตั้งแต่เป็นนักธุรกิจมา จนเข้าสู่เวทีการเมือง ให้เกียรติเพื่อนร่วมงานทุกคน เพราะฉะนั้น การจะทำอะไรต้องมีการพูดคุยอยู่แล้วเป็นธรรมดา แต่แน่นอนตนเป็นคนจรดปากกาเซ็น
เมื่อถามว่ามีคนมองนายกฯ ทำงานเด็ดขาดจริงจัง อย่าเอาอะไรมาขู่ ไม่เช่นนั้นจะโดนเชือดคอได้ นายกฯ ยิ้มก่อนจะตอบว่า “ผมเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนจากทุกพรรคการเมืองที่ร่วมกัน เขารู้อยู่แล้วว่าการทำงานร่วมกันไม่มีการขู่ เราพูดคุยกันดีอยู่แล้ว และผมก็เข้าถึงง่ายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะช่องทางไหน มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ไม่ได้มีอะไรเลย
“เมื่อวานนี้ ผมก็ต่อสายตรงถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เรื่องอื่นก็ต่อสายตรงถึงกันตลอด ท่านเองไม่เคยขู่ผม ผมก็ไม่เคยขู่ท่าน ผมว่าเป็นวิธีเดิมๆ โบราณๆ จะเอาอะไรพูดกันตรงๆ ดีกว่า ปรับปรุงแก้ไขกันไประหว่างทาง แบบนี้ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นวิธีนี้ผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับพี่น้องประชาชน
ผมมาวันนี้ ทุกพรรคก็มา เพื่อไทยไม่ได้มีส.ส.ที่นี่ ก็เป็นปมทางใจนิดหน่อย แต่ไม่มีอะไร ก็พูดคุยกัน กับ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ก็พูดคุยกันดี และเจอคุณแม่ท่าน ส.ส.ภูมิใจไทยก็มา 2 คน ส.ส.พลังประชารัฐก็มาจาก จ.ตรัง ก็ไม่ได้แยกพรรค แยกสีอะไร”
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เป็นข้อสั่งการที่เกี่ยวข้องกับพรรค พปชร.ในการปรับครม. ยังยืนยันเหมือนเดิมที่เป็นอยู่ขณะนี้ และยังรักษาให้เหมือนเดิม
ส่วนโควตาที่ยังเหลืออีก 1 ตำแหน่งซึ่งเป็นโควตาที่หัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค มอบให้ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เรื่องนี้ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่รับคำร้องเรื่องคุณสมบัติ มีเหตุผลหลายอย่างที่เรากำลังขับเคลื่อนอยู่ ตอนนี้ต้องรอฟังว่านายกฯ จะมีนโยบายอย่างไร
เมื่อถามว่ายังมั่นใจว่านายไผ่ สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ใช่หรือไม่ รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ประสาน มั่นใจว่ายังมีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีได้
"ในการปรับครม. นายกฯ กำชับว่ายังไม่มีนโยบายที่จะปรับ แต่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเราเตรียมพร้อม”