นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สำหรับวาระพิจารณางบประมาณปี 2568 ในวันที่ 5-6 มิถุนายน 2567 เตรียมอภิปรายการจัดซื้อจัดจ้างทุกกระทรวง ไม่ได้จำกัดแค่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เท่านั้น เพราะแต่ละกระทรวงมีการจัดซื้อจัดจ้างแบบไม่โปร่งใส
ก่อนหน้านี้ นายฐากร ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ศูนย์ปราบโกงพรรคไทยสร้างไทยได้รับข้อมูลจากประชาชนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองกรณีความไม่ชอบมาพากลในการจัดประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆในหลายกระทรวงโดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี มีข้อมูลส่งมาเป็นจำนวนมาก ศูนย์ปราบโกงพรรคไทยสร้างไทยได้รับข้อมูลจากประชาชนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองกรณีความไม่ชอบพากลในการจัดประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ในหลายกระทรวงโดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี มีข้อมูลส่งมาเป็นจำนวนมาก
โดย ดีอี มีหน่วยงานที่อยู่ในสังกัดอาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลคทรอนิกส์ กระทรวงฯได้รับงบประมาณปี 2567 เป็นจำนวน 5,347ล้านบาท หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณมากสุดได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จำนวน 1,586 ล้านบาท และก รมอุตุนิยมวิทยา จำนวน 1,348 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรัฐวิสาหกิจอีก2แ ห่งที่ ดีอี กำกับดูแลได้แก่บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT มีรายได้ปีละกว่า 8หมื่นล้านบาท บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ 2 หมื่นล้านบาท
นายฐากร กล่าวว่า อีกหลายๆหน่วยงานที่ ดีอี กำกับดูแล เปิดให้ประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันคนใกล้ชิดของรัฐมนตรีเข้าไปพัวพันในการจัดซื้อและประมูลงานซึ่งประชาชนที่ร้องเรียนระบุชื่อตำแหน่ง แต่จะขอเรียกย่อๆว่า มิสเตอร์ดับเบิ้ลที บุคคลทั้งสองเสนอเรียกรับผลประโยชน์จากผู้รับเหมาในบางโครงการมากถึง 30% บางโครงการมูลค่าแค่ 10กว่าล้านบาท ก็ยังขอแบ่งส่วนผลประโยชน
“ผมมั่นใจว่า คุณประเสริฐ จันทร์รวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ของมิสเตอร์ดับเบิลทีอย่างแน่นอน แต่จะขอให้รัฐมนตรีเข้าไปตรวจสอบข้อกล่าวหาซึ่งกำลังเป็นเรื่องอื้อฉาวในกระทรวงดีอี ”นายฐากรกล่าว.