17 พฤษภาคม 2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (เลขาธิการ กกต.) ชี้แจงถึงกรณีผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อสมาชิกวุฒิสภาสำรองตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะสามารถลงสมัครเลือก สว.ในครั้งนี้ได้หรือไม่โดยยืนยันว่า สามารถลงสมัครได้
หากไม่ได้เป็นสมาชิกวุฒิสภาเพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ผู้ที่เป็นหรือเคยเป็น สว.ชุดบทเฉพาะกาล 250 คนชุดนี้จะไม่สามารถลงสมัครเลือก สว.ได้ ดังนั้น เมื่อยังเป็นเพียงบัญชีสำรอง แต่ยังไม่ได้เป็น สว.จึงยังสามารถสมัครได้
ส่วนการรับสมัคร สว.ครั้งนี้จะมีผู้สมัครกว่า 100,000 คนตามที่มีการคาดการณ์ไว้หรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. คาดว่า น่าจะมีผู้สมัครกว่า 100,000 คน แต่รับสมัครเลือก สว.ไม่ใช่ใครที่สามารถรับสมัครได้เพราะจะต้องมีความตั้งใจและมีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้าม
พร้อมยังชี้แจงถึงจุดสังเกตและมาตรการการป้องการการฮั้วคะแนนของผู้สมัคร หรือการขอคะแนนกันระหว่างผู้สมัครว่า ถ้าผู้สมัครที่สมัครเข้ามาเพื่อลงคะแนนให้กับบุคคลอื่นโดยเฉพาะจะมีจุดสังเกตที่ตนเอง หรือคนกลุ่มหนึ่งจะไม่มีคะแนนเลยก็จะผิดสังเกตเพราะกฎหมายเปิดช่องว่า อาจจะลงคะแนนให้กับตัวเองได้ด้วยก็ได้
ดังนั้น พฤติการณ์ดังกล่าว จะต้องมีการสืบ และตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่โดยกระบวนการ กกต.จะทราบตั้งแต่ก่อนการรับสมัครแล้วว่า มีความเคลื่อนไหวอย่างไรและนำมาประมวลซึ่งการพิจารณาสำนวนการทุจริตก็ต้องใช้เวลา
ส่วน กกต.รับทราบการข่าวการฮั้วคะแนนกันหรือการขอคะแนนกัน รวมถึงการเกณฑ์กลุ่มคนมาสมัครโดยการสนับสนุนของกลุ่มการเมืองเพื่อให้เกิดการฮั้วกันของผู้สมัครแล้วหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า กกต.มีศูนย์ข่าวอยู่ทุกจังหวัดและรับทราบความเคลื่อนไหวตั้งแต่ก่อนการบังคับใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว.แต่หากเมื่อมีการบังคับใช้พระราชกฤษฎีกาแล้ว ยังมีการดำเนินการต่อหรือเกินกว่าการให้ความรู้ก็จะเป็นความผิดซึ่งหากพบว่า มีความปรากฏโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้องเรียน กกต.ก็มีอำนาจตรวจสอบได้ทันที
เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงกระแสตอบรับภายหลังที่ กกต.ได้มีการออกประกาศแก้ไขระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. โดยย้ำว่า กกต.ดำเนินการตามกฎหมาย แต่เสียงตอบรับจากประชาชนได้สะท้อนไปถึงผู้ร่างกฎหมาย ที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจด้วย และ กกต.ได้พยายามให้ประชาชนเข้าถึง และมีส่วนร่วมต่อกระบวนการเลือก สว.และรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน ไม่สามารถบังคับความเห็นจากประชาชนได้
ส่วนกรณีที่นักวิชาการเรียกร้องให้ กกต.ผ่อนคลายระเบียบให้ผู้สมัคร สว.สามารถแสดงวิสัยทัศน์ในการเลือกระดับประเทศได้นั้น เลขาธิการ กกต.ย้ำว่า ระเบียบของ กกต.อยู่บนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญที่ต้องการการเสมอภาคแม้จะมาสมัครคนเดียว ไม่ได้เกาะกลุ่มตั้งก๊วนกันมาก็มีสิทธิได้รับการเลือกได้ผ่านประสบการณ์ ไม่ใช่การแสดงความเห็นวิสัยทัศน์
ดังนั้น ระเบียบของ กกต.จึงให้มีการแนะนำตัวเพื่อให้เกิดความเสมอภาคในการแข่งขันให้ผู้สมัครได้แข่งขันอย่างเป็นธรรม