วันนี้ (16 มิ.ย. 67) นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวภายหลังตกรอบการเลือก สว. ระดับจังหวัดว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะก่อนที่เข้ามาสมัคร ก็รู้แล้วว่าประเมินได้ลำบาก และคนที่เข้ารอบถือว่ามีคุณสมบัติและความสามารถที่ดี และรู้สึกว่าสัดส่วนจำนวนคนของกรุงเทพมหานครไม่เหมาะสม เพราะคัดเหลือเพียง 2 คน ในรอบไขว้
นางสาวรสนา ยังมองว่า กติกาตามกฎหมายปัจจุบัน การฮั้วกัน สามารถเกิดขึ้นได้ ตราบใดเป็นการฮั้ว โดยที่ไม่มีการจ่ายเงิน เพราะแต่ละคนต้องมีการเจรจา และผลที่ออกมาก็เป็นไปตามสภาพ โดยเห็นว่าหาก สว. มาจากการเลือกตั้งจะได้เห็นผลงานและประสบการณ์ได้มากกว่า จึงเรียกกติกาดังกล่าวว่า conflict of Interest ที่เกิดปรากฏการณ์ผู้สมัครบางคนไม่ลงคะแนนให้ใครเลย รวมถึงคนที่ คนที่ไม่เลือกตัวเองมาเพื่อเลือกคนอื่น
ทั้งนี้ การเลือกระดับประเทศ หากการจัดตั้งจากกลุ่มต่างๆ ยังมาก อาจส่งผลให้คนที่สมควรได้รับตำแหน่งจริงต้องตกรอบไป ส่วนตัวมองว่าการเลือก สว.ตามกลไกนี้ ควรมีเพียงครั้งเดียว เพราะไม่ยึดโยงกับประชาชน
“กติกาการเลือกแบบนี้ จะเป็นการเพิ่มมุมลบของมนุษย์ให้แรงมากขึ้น เพราะทุกคนต้องเอาชนะกัน” น.ส.รสนา กล่าวและว่า แต่ก็ยังไม่รู้ว่าหลังวันที่ 18 มิ.ย. การเลือก สว. ครั้งนี้จะเป็นโมฆะหรือไม่
นางสาวรสนา ยังระบุถึงเส้นทางการเมืองของตัวเองในอนาคตว่า หากตัวเองได้เป็น สว. จะมีเครื่องมือมากขึ้น และสามารถทำอะไรได้มากขึ้น แต่ต่อไปคงต้องทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะพลเมือง หากมีเครื่องมือเท่านี้ก็ทำได้เท่าที่มี
ด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัคร สว. กล่าวว่า ตนตกการเลือกระดับไขว้ด้วยคะแนนที่ขาดไปนิดหน่อย แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร รู้สึกโล่งใจไปอย่าง ซึ่งมีข้อสงสัยหลายอย่างแต่เราแพ้ ก็จะไม่พูดอะไรขอให้กระบวนการเดินหน้าไป
“เรื่องสว.ครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราได้อะไรกลับไปเหมือนกัน จะเห็นว่าการทำงานผ่าน Social Media ไม่ใช่แค่สื่อออนไลน์เท่านั้น แต่คิดว่าการเข้าไปคุยผ่านซูม หรือ ช่องทางที่เขามี ผมคิดว่ามีนัยยะสำคัญ มีความน่าเป็นห่วง แต่คุณจะไม่พูดเยอะ และก็จะไม่ทำอะไรด้วยเพราะว่ายอมรับผล” นายแทนคุณ ระบุ