วันนี้ 15 ส.ค.67 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงที่อาคารรัฐสภา จุดยืนพรรคประชาชนต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันในอุดมการทางการเมืองและจุดยืนของพรรคประชาชนว่ายังคงมั่นคงตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ซึ่งอดีตพรรคก้าวไกลไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างพรรคการเมืองที่มีความเชื่อทางอุดมการต่างขั้วจะสามารถผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้
ซึ่งทางพรรคก็ได้ประเมินงานของรัฐบาลที่ผ่านมาในรอบ 1 ปี มาตลอดทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น รวมถึงปัญหาทั่วไป ซึ่งตอนนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี โดยพรรครวมรัฐบาลยังคงเดินหน้าร่วมกันต่อ ในการเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ แทนนายเศรษฐา
ดังนั้น พรรคประชาชนขอยืนยันว่าเราจะเดินหน้าทำหน้าที่ต่อในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน โดยไม่มีส่วนร่วมในการโหวตสนับสนุนนายชัยเกษมเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องร่วมกันเสนอรายชื่อซึ่งคาดว่ามีการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และแม้ว่าพรรคประชาชนจะไม่สามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคตัวเองได้แต่ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยังต้องการผลักดันอีกหลายเรื่องและตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
พร้อมกันนี้ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่าถึงแม้จะเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่ยังมีอีกหลายภารกิจที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการเมืองในระบบประชาธิปไตยและมีหลายวาระที่ต้องพลักดันร่วมกับพรรครัฐบาล หนึ่งในนั้นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กรอิสระและทบทวนเรื่องของมาตรฐานทางจริยธรรมในการรับผิดชอบทางการเมืองเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่บุคคลเพียงบางกลุ่ม
หากประชาชนจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่านกลไกรัฐสภาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะให้ความร่วมมือกับประชาชนเพื่อภารกิจดังกล่าวทวงคืนอำนาจสูงสุดที่เป็นของประชาชน
ส่วนในวันพรุ่งนี้สส.พรรคประชาชนจะลงมติอย่างไรนั้น นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ขอหารือในที่ประชุมสส. พรรคในช่วงเย็นวันนี้ก่อน มั่นใจว่าพรรคประชาชนจะไม่มีงูเห่ายกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน
ส่วนที่นายชัยเกษมมีปัญหาเรื่องสุขภาพนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องหารือกัน แต่ไม่ว่าจะเสนอชื่อใครก็เชื่อว่ามีการพิจารณามาอย่างดีแล้ว ซึ่งเป็นหน้าที่ของส.ส. ที่จะต้องมาร่วมเป็นองค์ประชุมในการประชุมเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี
นายณัฐพงศ์ มองว่า สิ่งที่ประชาชนคิดถึงเสถียรภาพของรัฐบาล จากการใช้อำนาจของตุลาการที่ทำให้เกิดผลกระทบจากทางนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ในการยุบพรรคก้าวไกลและการให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้ว่าพรรคประชาชนจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่พร้อมที่จะเป็นวาระร่วมกันที่ผลักดันร่วมกันเช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยประกาศจะไม่ร่วมมือกับพรรคที่มีจุดยืนแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาม.112 นั้น นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย น่าจะหมายถึงจุดยืนในการจับมือร่วมกันจัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาลไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112