”ธีรยุทธ”ยื่นศาลรธน. สอย“ทักษิณ-เพื่อไทย” ข้อหาล้มล้างการปกครอง

10 ต.ค. 2567 | 02:29 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ต.ค. 2567 | 02:32 น.

“ไพบูลย์ นิติตะวัน”เผย “ธีรยุทธ”ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวันนี้วินิจฉัยสอย “ทักษิณ-เพื่อไทย” ฐานเข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร จะเดินทางไปยื่นคำร้องขอศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1 และพรรคเพื่อไทย ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

โดยผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยคำร้อง 65 หน้า และเอกสารประกอบ อีกจำนวน 443 แผ่น รวมคำร้องและเอกสารประกอบชุดละ 508 แผ่น จำนวน 10 ชุด รวมเอกสารทั้งสิ้น 5,080แผ่น ทั้งนี้ จะมีการแถลงข่าวสรุปสาระสำคัญของคำร้องด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรยุทธ เคยเป็นบุคคลที่ร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เลิกการแสดงความเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล รวมถึงยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงต่อนายพิธา และ 44 สส.พรรคก้าวไกล

นายธีรยุทธ เปิดเผยผ่าน “เนชั่นทีวี” ว่า การยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ นายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 นั้น ข้อมูลหลักฐานที่นำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เป็นพฤติกรรมของ นายทักษิณและพรรคเพื่อไทย รวม 6 กรณี ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง 2 ลักษณะด้วยกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเข้าไปหารือจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ 14 สิงหาคม โดยมีข่าวว่าอดีตนายกฯทักษิณ เป็นคนเรียกเข้าไป และมีการหารือกันจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เป็นพฤติการณ์ที่นำไปร้องต่อศาลด้วยหรือไม่นั้น นายธีรยุทธ กล่าวว่า เป็นหนึ่งในหลายๆ พฤติกรรมของอดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งคิดว่าเข้าข่ายการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ด้วยเช่นกัน 

เมื่อถามว่าหลักฐานสำคัญเป็นคลิปลับ หรือ คลิปเสียงตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายธีรยุทธ ตอบว่า ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องคลิป แต่หลักฐานตามคำร้องของตนเป็นพยานบุคคลที่มีความหนักแน่น และมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดได้ 

นายธีรยุทธ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เพราะได้ไปยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดมาแล้ว เมื่อวันที่ 24 กันยายน แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการใดๆ ภายใน 15 วัน และเมื่อวานครบกำหนด 15 วันแล้ว จึงนำคำร้องมายื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ โดยหลังจากยื่นคำร้องจะเปิดแถลงข่าวอธิบายรายละเอียดทั้งหมด