"คดีตากใบ" คดีใหญ่ที่ต้องย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว 25 ตุลาคม 2547 หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส มีประชาชนผู้ประท้วงกว่า 2,000 คนรวมตัว เรียกร้องให้ปล่อยตัวชายมุสลิมเชื้อสายมลายู 6 คน ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าถูกทางการไทยควบคุมตัวโดยพลการ
บรรยากาศตึงเครียดและยืดเยื้อ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตา ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และกระสุนจริง ส่งผลให้ผู้ประท้วงเสียชีวิตทันที 7 คน โดย 5 คนถูกยิงเสียชีวิต
หลังการสลายการชุมนุม เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายชายมุสลิมเชื้อสายมลายูประมาณ 1,370 คน จากหน้า สภ.นราธิวาส ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ซึ่งห่างออกไป 150 กิโลเมตร
การขนย้ายผู้ชุมนุมเจ้าหน้าที่บังคับให้นอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารเป็นชั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 78 คน จากการถูกกดทับหรือขาดอากาศหายใจระหว่างการเดินทาง ขณะที่ผู้รอดชีวิตหลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและบางคนกลายเป็นผู้พิการถาวร
“ทักษิณ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ได้ประณามการใช้กำลังเกินกว่าเหตุและความประมาทในการขนส่งผู้ถูกควบคุมตัว พร้อมกับออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีตั้ง “คณะกรรมการอิสระสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อำเภอตากใบ”กำหนด 11 ประเด็นเพื่อพิจารณา
แม้ว่าจะมีการจ่ายค่าชดเชยให้ผู้เสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ที่ถูกระบุว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบตามความเห็นของคณะกรรมการยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนแม้แต่รายเดียว
ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปี 2567 เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่สำนวนคดีถูกดองไว้ โดยไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อญาติผู้เสียชีวิตพยายามฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดนราธิวาสโดยตรง และส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงอัยการสูงสุดให้เร่งรัดคดีเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 จนทำให้ปัจจุบัน "คดีตากใบ" มีการฟ้องผู้ต้องหา 2 ชุด
เกิดจากประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตยื่นฟ้องเองต่อศาลนราธิวาส ซึ่งศาลรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ในข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา พยายามฆ่า และควบคุมตัวบุคคลโดยมิชอบ” โดยมีผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วย
เกิดจาก "อัยการสูงสุด (อสส.) มีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อ 12 กันยายน 2567 ข้อหา "เคลื่อนย้ายผู้ถูกควบคุมตัวในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา" มีผู้ต้องหา 8 คน
ซึ่ง พล.อ.เฉลิมชัย เป็นคนเดียวที่มีรายชื่อถูกสั่งฟ้องทั้งสองชุด และนอกนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติระดับล่าง
ผ่านไป 20 ปี "คดีตากใบ" กำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 หากไม่มีจำเลยอย่างน้อยหนึ่งคนมาปรากฏตัวต่อศาลเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งจะทำให้กระบวนการไต่สวนไม่สามารถเริ่มขึ้นได้ และคดีจะถูกยกฟ้องในที่สุด