โปรดเกล้าฯ ถอดยศตํารวจ 18 ราย พร้อมเรียกคืนเครื่องราช บรรยิน ตั้งภากรณ์ ด้วย

24 ธ.ค. 2567 | 12:07 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ธ.ค. 2567 | 12:20 น.

โปรดเกล้าฯ ให้ถอดยศตํารวจ-อดีตตํารวจ รวม 18 ราย พร้อมเรียกคืนเครื่องราช ฐานกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงถูกไล่ออก และคดีถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ยศ “พล.ต.ต. 1 ราย - พ.ต.ท. 5 ราย - พ.ต.ต. 1 ราย - ร.ต.อ. 6 ราย – ร.ต.ท. 3 ราย – ร.ต.ต. 2 ราย” มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ด้วย

วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตํารวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศข้าราชการตํารวจและอดีตข้าราชการตํารวจ รวม ๑๘ ราย ออกจากยศตํารวจ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ดังนี้

๑. พลตํารวจตรี พงษ์เดช หรือ วชิรวิชญ์ พรหมมิจิตร หรือ กฤษณ์ฤทธิศักย์ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

                             โปรดเกล้าฯ ถอดยศตํารวจ 18 ราย พร้อมเรียกคืนเครื่องราช บรรยิน ตั้งภากรณ์ ด้วย

๒. พันตํารวจโท ศิระเดช หรือ วีระเดช กีรติพสุวัฒน์ หรือ ติ๊บปะละ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ๒๕๕๕ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออก จากราชการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๒ และเหรียญราชการชายแดน

๓. พันตํารวจโท ชนดิช หรือ ธันยาวีย์ หรือธันยวีร์ หรือ ธันย์พิชิต วงศ์รัตน์ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญราชการชายแดน และเหรียญจักรมาลา

๔. พันตํารวจโท กวีวัธน์ หรือ อุตร์ นิรงค์บุตร ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

                     โปรดเกล้าฯ ถอดยศตํารวจ 18 ราย พร้อมเรียกคืนเครื่องราช บรรยิน ตั้งภากรณ์ ด้วย

๕. พันตํารวจโท ศุภณัฏฐ์ หรือ มาโนช หรือ สิรภพ หรือ กรณ์ศักดิ์ พูลแก้วธนพงษ์ หรือ พูลแก้ว ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๒ และเหรียญราชการชายแดน

๖. พันตํารวจโท บรรยิน ตั้งภากรณ์ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุด ให้ลงโทษจําคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๗. พันตํารวจตรี พิชิตพงศ์ ยอดพิกุล ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา

๘. ร้อยตํารวจเอก สุธน ทิพย์โอสถ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๑ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

                       โปรดเกล้าฯ ถอดยศตํารวจ 18 ราย พร้อมเรียกคืนเครื่องราช บรรยิน ตั้งภากรณ์ ด้วย

๙. ร้อยตํารวจเอก สุริยันต์ หรือ นนธ แก้วพิบูลย์ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒ เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๑๐. ร้อยตํารวจเอกหญิง ดลนภา ไตรคุ้มกัน ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ๒๕๖๐ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฏไทย

๑๑. ร้อยตํารวจเอก อัศวิน บุนนาค ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ๒๕๖๓ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

๑๒. ร้อยตํารวจเอก วิศรุต แสบงบาล ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๑๓. ร้อยตํารวจเอก ธนชาติ หรือ ชาติ ชื่นใจ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือกและเหรียญจักรมาลา

๑๔. ร้อยตํารวจโท นพพล เกียรติ์ทวีมั่นคง ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๑๕. ร้อยตํารวจโท วสุพล บุญประดิษฐ์ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย

๑๖. ร้อยตํารวจโท นพดล พิพิธกุล ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญทองช้างเผือก

๑๗. ร้อยตํารวจตรี ภูมิพัฒน์ หรือ นิวัฒ จันทะคัด ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ เนื่องจากต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจําคุก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญทองช้างเผือก

๑๘. ร้อยตํารวจตรี เฉลี่ยง บุญประกอบ ออกจากยศตํารวจ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ เนื่องจากกระทําผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีคําสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ ๒ ประเภทที่ ๒ และเหรียญทองช้างเผือก

ทั้งนี้ บุคคลทั้ง ๑๘ ราย เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๗

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ 

แพทองธาร ชินวัตร 

นายกรัฐมนตรี

คลิกดูจากราชกิจจานุเบกษา