สตม.ขึ้นแบล็คลิสต์ 4 ชาวอิสราเอลป่วนหมอ บุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรไทย

18 ก.พ. 2568 | 07:52 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.พ. 2568 | 08:01 น.

ผบช.สตม.สั่งเพิกถอนการอนุญาตอิสราเอลป่วนหมอ พยาบาล โรงพยาบาลปาย ให้อยู่ต่อในราชอาณาจักร พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักร

จากกรณีชาวต่างด้าวสัญชาติอิสราเอลก่อความเดือดร้อน สร้างปัญหาให้กับหมอและพยาบาล ที่โรงพยาบาลปาย จ.แม่ฮ่องสอน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมานั้น

วันนี้ (18 ก.พ.68) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยกรณีเพิกถอนการอนุญาตการให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรของคนต่างด้าวสัญชาติอิสราเอล ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลปาย จ.แม่ฮ่องสอน 

กรณีดังกล่าว สตม. ได้ดำเนินการผลักดันตัวคนต่างด้าวทั้ง 4 ราย ออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 โดยเที่ยวบิน  LY084 สุวรรณภูมิ-อิสราเอล 
ทั้งนี้คนต่างด้าวทั้ง 4 ราย มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า เป็นภัยต่อสังคม คุกคามการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ แสดงพฤติกรรมที่ไม่เชื่อฟังคำแนะนำและข้อห้าม และพยายามบุกรุกเข้าไปในบริเวณพื้นที่ ต้องห้ามของบุคลากรทางการแพทย์ 

                         สตม.ขึ้นแบล็คลิสต์ 4 ชาวอิสราเอลป่วนหมอ บุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรไทย

จนต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีใน ข้อหา “ ร่วมกันก่อความเดือดร้อน ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำการให้ได้รับความอับอาย“ และถูกเปรียบเทียบปรับไปคนละ 3,000 บาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าลักษณะต้องห้าม ตาม มาตรา 12(7) และ หลักเกณฑ์การบันทึกรายชื่อ บุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร

โดย ผบก.สส.สตม. ได้มีคำสั่งลงวันที่ 11 ก.พ.2568 บันทึกข้อมูล เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร 
พล.ต.ท.ภาณุมาศ ย้ำว่ าพฤติกรรมเช่นนี้ น่าเชื่อว่าจะเป็นภัยต่อสังคม เพราะในอนาคตอาจจะไปก่อเหตุร้าย เนื่องจากไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายไทย 

                 สตม.ขึ้นแบล็คลิสต์ 4 ชาวอิสราเอลป่วนหมอ บุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรไทย

“ไม่เฉพาะชาวอิสราเอล เราไม่ได้เลือกเฉพาะเจาะจงสัญชาติใด สัญชาติหนึ่ง แต่ชาวต่างชาติทุกราย ที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม จะต้องดูดำเนินการตามกฎหมายและผลักดันออกนอกประเทศทุกราย” 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กำชับให้ สตม.เพิ่มความเข้มในมาตรการการควบคุมการเข้าออก และการอยู่ในราชอาณาจักรของชาวต่างชาติ ขอให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจ หากพบเบาะแสให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตม.ทราบได้ทันที