แก้ญัตติซักฟอกนายกฯ เปลี่ยนคำจาก “ทักษิณ” เป็น “คนในครอบครัว”

วันนี้(17 มี.ค. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฉบับแก้ไข ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ในช่วงเช้าวันนี้ โดยขีดฆ่าชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร และคำว่า "ผู้เป็นบิดา" ออก แล้วเปลี่ยนเป็น "บุคคลในครอบครัว" แทน

นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า ประธานจะบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระโดยไม่มีปัญหาใด ๆ และสามารถเปิดอภิปรายได้ในวันที่ 24 มี.ค. 2568 ตามข้อเสนอของรัฐบาล

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติฉบับแก้ไขขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยถอดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกและใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว” แทน ว่า อยู่ที่ประธานสภาฯ จะใช้ดุลยพินิจว่า การใส่ชื่อ นายทักษิณ เป็นการกล่าวชื่อบุคคลภายนอก เมื่อแก้ไปแล้วก็ยังเป็นดุลยพินิจของประธานสภาฯ ว่าจะเป็นอย่างไร 

“หากบรรจุแล้วก็จบ เราไม่ใช่ผู้ตัดสิน  เราไม่มีปัญหาอะไรเมื่อบรรจุแล้วก็อภิปรายกันไป เราไม่ได้มีข้อท้วงติงอะไร ท้ายที่สุดแล้วถ้ามีปัญหาเช่นนี้ก็อย่างที่เคยเตือน แม้จะบรรจุวาระ แต่ในการอภิปรายก็จะเกิดประเด็นอีกว่า มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็นตามข้อบังคับ ส่งผลให้เกิดการประท้วงกันอีก แต่ข้อดีคือ เมื่อประธานสภาฯ บรรจุ คงคิดว่า เรื่องนี้พออณุโลมกันได้ พูดกันได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

ขณะที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ว่า มีการนัดคุยกันวันที่ 19 มี.ค. 

“เราเองก็ถอยให้หลายอย่าง ถอยไปจนไกลแล้ว เราให้เวลาฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง รัฐบาลขอแค่ 7 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าน้อยมาก โดยผมต้องขอมตินอกที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 18 มี.ค. เราพยายามเต็มที่ไม่ใช่จะไปจำกัดอะไรฝ่ายค้าน” 

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวด้วยว่า "หลายคนถามว่า ทำไมไม่ให้เวลาหลายๆ วัน เรามองว่ามันมากเกินไป ในสมัยที่แล้วเราเป็นฝ่ายค้านอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี 3 วัน แต่รัฐมนตรี 11 คน แต่ครั้งนี้อภิปรายแค่คนเดียว 2 วันก็น่าจะพอสมควร เราถามฝ่ายค้านแล้วว่า อภิปรายใครบ้าง ฝ่ายค้านบอกนายกฯ 95% เพื่อไม่ให้ซ้ำไปซ้ำมา 23 ชั่วโมงถือว่าเต็มที่แล้ว หากทุกคนรู้จักถอยซะบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ตัวเองได้หมดก็จะคุยกันรู้เรื่อง" นายวิสุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าจะไม่มีถอยไปมากกว่านี้แล้วใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า “ถอยไม่ได้แล้วครับ ถอยไปมากกว่านี้ก็ตกแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว 

“ส่วนวันที่ 19 มี.ค. จะคุยเรื่องกรอบเวลาจบใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้อง 18 มี.ค.นี้เท่านั้น ต้องเจรจราเรื่องกรอบเวลาให้จบ ทุกคนจะได้ไปเตรียมตัวในการอภิปราย ถือว่าฝ่ายค้านในเวลาเยอะแล้ว ได้กล่าวหานายกฯ อย่างเต็มที่ เรามีเวลา 7 ชั่วโมงรวมทั้งเวลาการประท้วงด้วยก็ลำบากเหมือนกัน ถือว่าได้เวลาน้อยนิด ถอยไปกว่านี้คงไม่ได้แล้ว”