ฝ่ายค้านเตรียม "อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568" ล็อคเป้าแค่ "นายกฯ แพทองธาร" เพียงแค่คนเดียว จะเกิดขึ้นวันไหน ช่วงเวลากี่โมง และมีประเด็นอะไรบ้าง หลังแก้ไขญัตติตัดคำว่า "ทักษิณ"
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับแก้ไขต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยปรับแก้ข้อความในญัตติ
จากเดิมที่ระบุถึง "นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา" เปลี่ยนเป็น "บุคคลในครอบครัว" ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดอภิปรายได้ในวันที่ 24 มีนาคม 2568 ตามข้อเสนอของรัฐบาล ทั้งนี้ ผู้นำฝ่ายค้านเชื่อว่าประธานสภาฯ จะบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระโดยไม่มีปัญหาใดๆ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน 5 พรรคในสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมกันลงชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ได้เกิดข้อขัดแย้งในประเด็นการใช้ถ้อยคำที่อ้างถึงบุคคลภายนอก ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขเนื้อหาในญัตติฉบับใหม่
ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจระบุว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
การเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายยังคงมีข้อถกเถียงในประเด็นระยะเวลาในการอภิปราย โดยฝ่ายค้านและรัฐบาลยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
ในการประชุมวิป 3 ฝ่ายเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องกรอบระยะเวลาได้ และนัดหมายให้มีการหารือกันอีกครั้งในวันที่ 19 มีนาคม 2568
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือประธานวิปรัฐบาล ยืนยันจุดยืนว่าไม่สามารถเพิ่มเวลาให้มากกว่า 23 ชั่วโมงได้แล้ว โดยกล่าวว่า "ถอยไม่ได้แล้วครับ ถอยก็ตกแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้ว" และชี้แจงเพิ่มเติมว่า "เราก็ถอยให้หลายอย่างแล้ว ถอยไปจนไกลแล้ว ถอยไปจนถึงกับว่า ฝ่ายค้านเอาเวลาอภิปรายไป 23 ชั่วโมง รัฐบาลขอแค่ 7 ชั่วโมง ถือว่าน้อยมาก"
ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ยังคงยืนยันว่า 30 ชั่วโมงเป็นกรอบเวลาที่เหมาะสม และกล่าวว่า "จริงๆ 30 ชั่วโมงก็เป็นสิ่งที่เราถอยกันมา แล้วในมุมมองของฝ่ายค้าน จาก 5 วันก็ถอยลงมาเรื่อยๆ จนเรายึดในตัวเนื้อหา 30 ชั่วโมงเป็นหลัก การจะเดินต่อไปได้ก็ต้องถอยกันคนละก้าว"
นายณัฐพงษ์ยังเตือนว่า "ถ้าจะเดินหน้าไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ในสมัยการประชุมนี้ ก็อาจเกิดปรากฏการณ์ที่รัฐบาลไม่ให้เวลากับฝ่ายค้านเพียงพอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ"
สภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. 2568 ในวันที่ 11 เมษายน 2568 และทั้งสองฝ่ายมีกำหนดการประชุมหารือเรื่องการแบ่งเวลาอภิปรายในวันที่ 19 มีนาคม 2568
ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ข้อมูลว่า หากจะให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 24 มีนาคม 2568 ต้องเสนอญัตติเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 18 มีนาคม 2568 ถ้าไม่ทันก็จะเป็นการประชุมครม.ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 ซึ่งวันอภิปรายก็จะไม่ใช่วันที่ 24 มีนาคม 2568 ดังนั้น หากจะต้องอภิปรายภายในสมัยประชุมนี้ ต้องเข้าครม.ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2568