ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิสันต์ เดชเสน อดีตส.ส.8 สมัยของจังหวัดยโสธร ประกาศตัวร่วมทำงานกับพรรคไทยสร้างไทย โดยส่ง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน นายสรวิศ เดชเสน เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร โดยมี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแสดงความยินดี
สำหรับนายสรวิศ จบการศึกษาด้าน วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ด้านนิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านรัฐประศาสนศาสตร์ จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า รวมถึงยังมีประสบการณ์เคยเป็นวิศวกรด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับสูงโดยเฉพาะการพัฒนา App K Plus
สำหรับการตัดสินใจเข้าร่วมงาน กับ พรรคไทยสร้างไทย ของ นายสรวิศ นั้นเกิดจากการผลักดันของ นายวิสันต์ ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของพรรค โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นจุดแข็ง สามารถทำได้จริงภายใน 3 ปี ไม่ขายฝัน ไม่ต้องรอนาน
ขณะเดียวกันก็มั่นใจในตัว คุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งเป็นคนเก่ง เป็นผู้นำที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต และทำงานยากๆ สำเร็จมาแล้วมากมาย
จึงเชื่อว่าทุกนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ที่ได้ประกาศไปแล้วจะถูกใจชาวยโสธร และทำได้สำเร็จเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน ดังนั้น จึงตัดสินใจให้ลูกชายมาร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย
ทั้งนี้ นายสรวิศ ได้รับมอบหมายจากพรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 อำเภอกุดชุม, อำเภอเลิงนกทา และ อำเภอไทยเจริญ
นายสรวิศ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดกับพี่น้องเกษตรกร พี่น้องประชาชนคนตัวเล็ก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอิสาน พรรคไทยสร้างไทย พร้อมยืนเคียงข้าง และจะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน จากหลักการของพรรคที่มุ่งดูแลประชาชน ตั้งแต่เกิดจนแก่ ให้หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน
เช่น การพักหนี้ เติมทุน จะมีกองทุนคนตัวเล็ก สามารถกู้ได้ตั้งแต่ 5,000- 50,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำกว่าร้อยละ 1 ต่อเดือน เพื่อใช้ในการตั้งตัว ใช้ในยามฉุกเฉิน และที่สำคัญจะใช้ในการปลดหนี้นอกระบบ ซึ่งถือเป็นเครดิตให้ประชาชน โดยเงินทุนดังกล่าวถ้ารักษาเครดิตให้ดี จะอยู่ติดตัวพี่น้องประชาชนไปตลอดชีวิต และจะเป็นหลักประกันทางด้านการเงินให้พี่น้อง
พรรคไทยสร้างไทย จะดูแลผู้สูงอายุ ที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ ด้วยนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท โดยมีหลักการสำคัญ คือ มุ่งดูแลสุขภาพผู้สูงอายุให้แข็งแรง มีส่วนร่วมสร้างสรรค์สังคมไทย และ จะเป็นการลดภาระ ลดความกังวลของลูกหลาน ทำให้มีเงินตั้งตัวได้เร็วขึ้น ไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายของผู้สูงอายุในครอบครัว
“ที่สำคัญยังเป็นการกระจายรายได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการหมุนเวียน ฟื้นฟูสังคม ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ให้กลับมาเข้มแข็งรวดเร็วยั่งยืนอีกครั้ง” นายสรวิศ ระบุ