วันนี้(24 ม.ค.66) พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค , นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานยุทธศาสตร์และนโยบายเศรษฐกิจ พร้อมด้วยแกนนำพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรค ร่วมเปิดนโยบายของพรรค เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง 2566
เริ่มต้นด้วย นายสุวัจน์ ที่กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ อยู่ในสถานการณ์วิกฤติ 35 ปีที่ผ่านมาที่ตนอยู่ในการเมืองไม่เคยเจอมาก่อน เชื่อว่าวิกฤติครั้งนี้จะผ่านไปได้ ซึ่งวิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากภาวะโรคระบาด เงินเฟ้อ น้ำมันแพง นอกจากนั้นยังมีภาวะหนี้ครัวเรือน กว่า 90% ทำให้ตัวเลขจีดีพีของไทยถดถอยรั้งท้ายอาเซียน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่เคยเจอวิกฤติแบบนี้ ดังนั้น พรรคการเมืองต้องร่วมมือกันเพื่อให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นทางออกของวิกฤติ พรรคชาติพัฒนากล้าพร้อมอาสาและมีนโยบายรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกคนมีงาน มีเงิน และของไม่แพง แนวคิดของพรรค คือ การสร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ ให้กับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยที่เข้มแข็ง บนพื้นฐานของทรัพยากรที่เข้มแข็งและสร้างความยั่งยืนให้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นโยบายของพรรคชาติพัฒนา ที่เปิดตัวมีทั้งสิ้น 12 ด้าน โดยตั้งเป้าหมายคือ กอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติ ได้แก่
1.หาเงินใหม่ให้ประเทศ 5 ล้านล้านบาท 2. ลดภาษีบุคคคล เงินเดือน 40,000 บาททแรกไม่ต้องเสียภาษี 3. น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า ต้องถูกลง รื้อโครงสร้างพลังงาน 4. ยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร รื้อระบบสินเชื่อ 5. รื้อระบบราชการ โดยใช้ GOv-Tech ราชการมือถือรวดเร็ว ปลอดคอร์รัปชัน
6. เกษตรสร้างชาติ เพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยี-อุตสาหกรรม 7. สร้างเด็กไทย 3 ภาษา 8. ทุนธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุดรายละ 1 ล้านบาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย 9. สูงวัยไฟแรง งานใหม่ 5 แสนตำแหน่ง 10. อารยสถาปัตย์ ปรับเงินบ้าน 50,000 บาทให้ผู้สูงวัยและผู้พิการ 11. มอร์เตอร์เวย์ทั่วไทย 4ทิศ 2,000 กม. และ 12. ท่องเที่ยวนำไทย เพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า
นายกรณ์ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า นโยบายของพรรคจะสร้างรายได้ใหม่ให้ประชาชน และคนไทย 5 ล้านล้านบาท ในช่วงเวลา 5 ปี หากพรรคสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ที่นำเสนอได้ โดยยุทธศาสตร์ของพรรคได้จัดกลุ่ม 7 กลุ่ม คือ
กลุ่มยุทธศาสตร์สีเขียว คือ รักษ์โลก เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน นำประเทศไปสู่ภาวะเป็นกลางทางคาร์บอน นำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่รอบ 40 ปี โดยต้องรื้อระบบอุตสาหกรรม การเกษตร พลังงาน เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของโลกที่มุ่งด้านสิ่งแวดล้อม
พรรคชาติพัฒนาจะช่วยภาคอุตสาหกรรมปรับตัว รวมถึงภาคการเกษตร สนับสนุนการปลูกป่า 26 ล้านไร่ โดยออกพันธบัตรปลูกป่า 65,000 บาท ให้กับประชาชน ซึ่งจะเกิดผลตอบแทนให้กับประชาชนในอนาคต นอกจากนั้นคือ การขายคาร์บอนเครดิต ปัจจุบัน มีราคา125 บาทต่อตัน ได้เงินคืน 6,000 ล้านบาท และในอนาคตเชื่อว่าจะมีมูลค่าสูงขึ้น 65,000 ล้านบาท
ถัดไป กลุ่มยุทธศาสตร์สีเทา จะนำธุรกิจและเศรษฐกิจสีเทาให้สู่ที่สว่าง โดยพรรคจะส่งเสริมพื้นที่ที่พร้อม ออกใบอนุญาตทำคาสิโนรีสอร์ท เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ และแก้ปัญหาเงินจากบ่อนใต้ดิน ดึงรายได้ของคนไทยที่เล่นการพนันในคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน และทำให้เกิดการท่องเที่ยว ทั้ง จะช่วยแก้ปัญหาลอตเตอรี่ราคาแพง
ยุทธศาสตร์สีขาว ที่มาจากความเชื่อและศรัทธา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มาจากการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยจะตั้งกองทุนให้กับ 77 จังหวัด เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมู
ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างโอกาสให้คนไทย โดยตั้งกองทุนสนับสนุน เพื่อให้คนไทยเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม เช่น การจองห้องพัก
ยุทธศาสตร์สีฟ้า ด้วยใช้เทคโนโลยีเพื่อปฏิรูประบบราชการ ลดโอกาสการทุจริต ลดต้นทุนการบริหารจัดการ
ยุทธศาสตร์สีเหลือง โดยใช้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ทั้งศิลปวัฒนธรรม อาหาร กีฬา เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยพรรคจะมีกองทุนสนับสนุนที่ชัดเจน
ยุทธศาสตร์สีเงิน เพื่อผู้สูงอายุ โดยพรรคจะให้เงินสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อจ้างงานผู้สูงอายุ และมีกองทุน 50,000 บาทต่อครัวเรือน เพื่อปรับอารยสถาปัตย์เพื่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ตั้งเป้า 4 ล้านครัวเรือนในปีแรก และ ยุทธศาสตร์สีรุ้ง
หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของพรรค คือ การสร้างรายได้ใหม่ให้คนไทยและประเทศ มีงานดีที่ประชาชนอยากทำ มีรายได้ที่เหมาะสม มีเงินพออยู่พอกิน มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจไม่มีหนี้สิน
และ ไม่แพง คือ ผู้ประกอบการมีกำไรที่เหมาะสม ประชาชนเข้าถึงสินค้าและบริการได้ เชื่อว่าจะเป็นเป้าหายที่ไปถึงได้ และนำประเทศเข้าสู่กระแสหลักของโลกและ ยกระดับไทยจากประเทศรายได้ปานกลางไปสูงได้ภายใน 5 ปี ซึ่งต้องขอแรงให้ประชาชนเลือกพรรคชาติพัฒนากล้าด้วย