พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัครส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิดกับ นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยิ่งทำให้ตนมีความเชื่อมั่นในตัวของ นายจุรินทร์ ว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพครบถ้วน
ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ทางด้านการเมือง ที่สั่งสมมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ประสบการณ์ด้านการบริหารกระทรวงต่าง ๆ หลายกระทรวง และที่สำคัญคือปัจจุบันในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ มีความโดดเด่น ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและในเวทีสากลระดับโลก
ล่าสุดจากการที่ นายจุรินทร์ ไปเยือนกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อเจรจาการค้าแบบทวิภาคี (FTA) กับ H.E. Mr. Valdis Dombrovskis (นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า หรือรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรป ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ถือเป็นประวัติศาสตร์และจุดเริ่มต้นที่ดีที่เกิดการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปขึ้น
ทั้งนี้สหภาพยุโรปถือเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยรองจากจีน สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยสัดส่วนการค้าที่ไทยค้ากับสหภาพยุโรป ประมาณ 7% ของการค้ากับโลก ถือเป็นคู่ค้าที่มีความสำคัญ โดยภายใต้ FTA นี้ประเทศไทยจะมีตลาดการค้าที่ได้เปรียบคู่แข่งขันจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น 27 ประเทศ จึงเป็นแต้มต่อต่อไปในอนาคต เพราะเป็นการสร้างเงิน สร้างอนาคตให้กับประเทศต่อไป
เป็นที่น่ายินดีว่า เมื่อวานนี้ในที่ประชุม ครม.ได้ให้ความเห็นชอบ FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งจากนี้ไปทาง EU จะดำเนินการขอความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเตรียมนับหนึ่งในการเดินหน้าเจราจา FTA ระหว่างทั้งสองฝ่ายต่อไป
“ภายหลังสถานการณ์โควิดระบาดส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ อีกทั้งมีการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้ นายจุรินทร์ ได้ฉายภาพให้เห็นว่า เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น มีศักยภาพสูง กล้าตัดสินใจ ทั้งในเรื่องการผลักดันด้านการส่งออกที่มีตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งการเจรจาทางการค้าก็สามารถเปิด FTA ให้กับประเทศช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันการไปเยือนประเทศต่าง ๆ ของนายจุรินทร์เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับสากล
เหล่านี้คือคุณสมบัติของผู้นำประเทศในยุคนี้ ที่จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกด้าน ทั้งการเป็นนักการบริหาร นักการค้า ซึ่งจะพาประเทศก้าวข้ามวิกฤตด้านเศรษฐกิจไปได้ และที่สำคัญเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ผมจึงเชื่อมั่นว่า นายจุรินทร์มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” พล.ต.ต.ดร.วิชัย กล่าว