นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวยุบสภาในวันที่ 21 มี.ค. ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเรื่องนี้หรือไม่ ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่เป็นไปได้ทั้งนั้น อยู่ที่นายกฯ
นายธนกร กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาพรรค รทสช.มีการเปิดตัวอดีต ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จำนวน 19 คนและวันที่ 1 มี.ค.จะมีการเปิดตัวอีก 20 กว่าคน สะท้อนว่า รทสช.มี ส.ส.อยู่ประมาณ 40 คน
ที่วิจารณ์กันว่า รทสช.จะได้ส.ส.ไม่เกิน 25 คนนั้น วันนี้มีประมาณ 40 คนแล้ว คำพูดดังกล่าวคงไม่ใช่ และจากการลงพื้นที่ร่วมกับนายกฯประชาชนให้การต้อนรับดีมาก เพราะเห็นผลงาน แล้วยิ่งฝ่ายค้านปราศรัยดิสเครดิตนายกฯว่าไม่มีผลงาน คะแนนยิ่งเพิ่มขึ้น
ถามว่า หลังการเลือกตั้ง เป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไปจับมือกับฝ่ายค้านปัจจุบัน
นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่ก้าวล่วง แต่ขอยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองท่าน ความเป็นพี่เป็นน้องที่คบกันมา 40-50 ปี ตนรู้จักพล.อ.ประวิตรมา 2-3 ปี ยังเคารพรักท่านขนาดนี้ นับประสาอะไรกับคนที่อยู่กันมา 40-50 ปี มั่นใจไม่มีการทิ้งกันอยู่แล้ว ทั้งสองท่านอยู่ที่จิตใจ ความรักความผูกพันมันมั่งคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวถามว่า บัตรสวัสดิการพลัส รู้แล้วใช่หรือไม่ว่าจะนำงบประมาณมาจากไหน นายธนกร กล่าวว่า "รู้สิครับเพราะนายกฯเป็นคนดูเรื่องงบประมาณ บริหารประเทศมา 7-8 ปี ทุกโครงการต้องผ่านนายกฯ สำนักงบประมาณขึ้นตรงกับท่าน จึงรู้ตัวเลขของงบประมาณ
และท่านพูดเสมอว่าต้องทำได้จริงๆ ต้องมีงบประมาณจริงๆ ท่านไม่ต้องการให้แต่ละพรรคพูดนโยบายที่ใช้งบประมาณจำนวนมากแต่ไม่บอกว่านำเงินมาจากไหน"
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตบัตรสวัสดิการพลัสเป็นการเกทับนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน นายธนกร กล่าวว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นแนวคิดที่นายกฯคิดร่วมกับทีม ดังนั้น แต่ละพรรคนำไปกำหนดเป็นนโยบายได้ อย่ามองว่าเป็นการเกทับ