"เศรษฐา"พร้อมลุยการเมือง ไม่โต้"บิ๊กตู่" เป็นผู้ใหญ่พูดอะไรต้องฟัง

01 มี.ค. 2566 | 06:31 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มี.ค. 2566 | 06:42 น.

"เศรษฐา" พร้อมลุยการเมืองช่วย"อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย"หาเสียง ปัดตอบ 'บิ๊กตู่'แซะประเทศไม่ใช่ธุรกิจ ชี้"ท่านเป็นผู้ใหญ่พูดอะไรก็คงต้องฟัง"

 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมกับคณะทำงานพรรคเพื่อไทย โดยกล่าวว่า ส่วนตัวมีความพร้อม เพราะก่อนหน้านี้ได้สมัครเป็นสมาชิกของพรรค และได้มีส่วนร่วมให้คำปรึกษา คุยกับสมาชิกและผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนมาตลอด วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดี และถึงเวลาแล้วที่ต้องมาทำงานการเมืองให้มากขึ้น 


ส่วนการช่วยพรรคเพื่อไทยด้วยการหาเสียงเลือกตั้งหลังจากนี้ ก็คงต้องทำตามขั้นตอน แต่ก่อนหน้านี้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็ทำหน้าที่หาเสียงเลือกตั้งมาด้วยดีตลอด แต่เพราะอายุครรภ์เริ่มมากขึ้น คนท้อง 7 เดือน มีขีดจำกัดในการลงพื้นที่ ตนพร้อมช่วยในลักษณะที่ถนัด

ส่วนจะเดินไปสู่ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่นั้น คงยังไม่ถึงขั้นนั้น ต้องไปทีละขั้นทีละตอน เพราะยังมีขั้นตอนที่จะต้องทำงานอีกหลายเรื่อง และต้องให้เกียรติสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย อีกทั้งยังมีอีกหลายคนที่เหมาะสม รวมถึงอยู่กับพรรคมานาน

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

นายเศรษฐา กล่าวว่า เวลานี้จะใช้คำว่าตนมานำทัพพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ต้องเป็นขั้นเป็นตอน ตนมาเป็นที่ปรึกษาให้กับ นางสาวแพทองธาร มาช่วยเติมเต็มส่วนที่คิดว่าจะช่วยเหลือประเทศชาติได้ และจะช่วยหาเสียง

ที่ผ่านมาตนมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ และอยู่แต่ในเมืองหลวง แต่การลงพื้นที่ต่างจังหวัดไปฟังความคิดเห็นชาวบ้านก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นถือว่าการลงพื้นที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมทำต้องทำ แต่จะต้องมีความเป็นตัวตนของตัวเองอยู่ และทำในสิ่งที่ถนัด หลายครั้งจำเป็นต้องลงไปฟังความคิดเห็นของผู้นำท้องถิ่นด้วย ว่าต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างไร


ส่วนจะเริ่มลงพื้นที่ช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงวันเสาร์นี้ที่จังหวัดนครราชสีมาเลยหรือไม่นั้น นายเศรษฐา บอกว่าต้องคุยผู้ใหญ่ในพรรคก่อนว่าจะให้ทำอะไรบ้าง แต่ส่วนตัวพร้อมถ้าหากผู้ใหญ่ในพรรคให้ลงพื้นที่เลย

และไม่ถือกระชั้นชิดกับการเปิดตัวช่วงนี้ เพราะพรรคเพื่อไทยทำงานเข้าถึงประชาชนได้ มานโยบายที่เป็นภาพใหญ่ที่ดี เคยทำงานและมีบทพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถทำได้ ฉะนั้นเรื่องระยะเวลาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเวลากระชั้นชิดมาก็ต้องทำงานมากขึ้น ส่วนจะ 60 วัน หรือ 75 วัน ไม่ใช่ประเด็นเพราะเรามีทีมงานที่พร้อมทำอยู่แล้ว
 

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยและคณะกรรมการบริหารพรรคเสนอโอกาส ให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคให้ พร้อมหรือไม่ นายเศรษฐา ขอให้ถึงวันนั้นก่อน ต้องให้เกียรติจะไปพูดก่อนคนที่มีความรู้ความสามารถที่อยู่ในพรรคก็ไม่ดี ตนไม่อยากจะไปกดดัน ก่อนเปรียบตนเป็นเหมือนน้องใหม่ มีคนคุณภาพที่เพียบพร้อมหลายคน

แต่เรื่องพร้อมหรือไม่พร้อม คงไม่ใช่เรื่องตนจะต้องมาพูด เป็นเรื่องของระบอบพรรคการเมืองที่ต้องเข้าใจ เพราะเราไม่ใช่คนตัดสิน แต่จะพยายามทำให้เต็มที่และดีที่สุด

เมื่อเป็นกระแสตอบรับจากสังคม คนบางส่วนเห็นด้วยอยากให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตนก็จะพยามทำตัวไม่ให้คิดมาก คิดวันต่อวัน และวันนี้หน้าที่ของตนคือมาให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำในมุมมองนักธุรกิจ ที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี

หวังว่าคำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะของตนจะเป็นประโยชน์ของพรรคการเมือง ส่วนขั้นตอนต่อไปขอเป็นเรื่องอนาคต และอีกไม่นานก็จะเลือกตั้งคงจะมีขั้นตอนต่อไป

นายเศรษฐา ตอบกรณีที่นายกรัฐมนตรี บอกว่าประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจว่า "พลเอกประยุทธ์ เป็นผู้ใหญ่ ท่านพูดอะไร ผมมีวัยวุฒิน้อยกว่าพลเอกประยุทธ์ก็ต้องฟัง คงไม่มีความคิดเห็นไปมากกว่านี้ และต่อจากนี้จะจัดสรรเวลาลุยงานการเมืองกับธุรกิจไปพร้อมกัน เพราะที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ก็แบ่งสรรปันส่วนได้ดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องครอบครัว สังคม ธุรกิจ หรือช่วยเหลือบ้านเมือง ทั้งเรื่องให้คำแนะนำ ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด"