วันนี้ (6 มี.ค.66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ร่วมกันเปิดตัว 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ภายใต้งาน “ประชาธิปัตย์ = ประชาชน DEM FOR ALL” ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานครจากทุกเขต เดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เพื่อมาให้กำลังใจผู้สมัครและยืนยันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายคนกังวลที่พรรคประชาธิปัตย์เลือดไหล แต่นั่นเป็นเหตุผลที่ตนมาอยู่ตรงนี้ เพื่อบอกกับทุกคนให้มั่นใจว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้มีเพียงแต่เลือดไหลออก แต่มีเลือดใหม่อย่างตนและผู้สมัครหน้าใหม่ไหลเข้าอย่างไม่ขาดสาย
จากประวัติศาสตร์ทุกมุมโลก จะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงย่อมมีการสูญเสีย ถือเป็นเรื่องปกติ และประชาธิปัตย์ก็เป็นเช่นนั้น การที่ต้นไม้ใหญ่จะผลิดอกออกผล ก็ต้องผลัดใบ เพื่อให้ยุคสมัยหน้าของประชาธิปัตย์ได้ผลิดอกออกผลให้สวยงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทีมกรุงเทพฯ ของพรรค จึงได้เตรียมการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยการมี โครงการฟัง คิด ทำ เพราะถือว่าประชาชนเป็นหัวใจสำคัญของพรรค สืบเนื่องถึงการจัดงานในวันนี้ “ประชาธิปัตย์ = ประชาชน” เพราะต้องการย้ำให้เห็นว่าประชาชนอยู่เหนือประชาธิปัตย์ และผู้สมัครทุกคนเป็นอาสาสมัครที่เข้ามาเป็นสะพานเชื่อมต่อโอกาส และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ เครื่องย้ำชัดว่า อุดมการณ์และความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมยืนอยู่เหนือตัวบุคคล และเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ดำรงอยู่คู่คนไทยมาได้ 77 ปี และทำงานการเมือง เพราะตระหนักอยู่เสมอว่า เจ้าของอำนาจที่แท้จริง คือ ประชาชน”
น.ส.วทันยา กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนและรัก พรรคประชาธิปัตย์ตลอดมา แม้จะมีครั้งหนึ่งที่วอกแวก นอกใจไปเลือกพรรคอื่นบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง วันนี้ขอให้เรากลับมาบ้านหลังเดิม กลับมาช่วยกันทำบ้านหลังนี้เข้มแข็ง อบอุ่น และยิ่งใหญ่ไปกว่าเดิม เพราะบ้านหลังนี้ คือ บ้านของประชาชนอย่างแท้จริง และเลือดประชาธิปัตย์ยังคงไหลเวียนอยู่ใน คน กทม. เสมอ
ส่วน ศ.ดร.สุชัชวีร์ ได้เริ่มต้นด้วยคำถามว่า 4 ปีที่ผ่านมา ปัญหากรุงเทพฯ น้อยลงหรือไม่ ปัญหา PM 2.5 มีใครสนใจเราหรือไม่ น้ำท่วมตั้งแต่ลาดกระบัง บางนา พระโขนง ลาดพร้าว ไปจนถึงดอนเมือง มีน้ำทะเลหนุนที่บางพลัด บางกอกน้อย ไปจนถึงบางบอน บางขุนเทียน
พรรคประชาธิปัตย์เจ็บปวดเหมือนพี่น้องประชาชน แต่ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคไม่มีโอกาส เพราะเราไม่มี ส.ส. ในกรุงเทพฯ เลย ดังนั้น ครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญ ถ้าปล่อยกรุงเทพฯ ไปอีก 4 ปี ลูกหลานของเราจะอยู่อย่างไร ทุกท่านจะอยู่อย่างไร
“วันนี้ ผู้สมัคร 33 เขต 33 คน คือ ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่หนีไปไหน เราอยู่ร่วมกันมา 77 ปี และยังคงอยู่ที่นี่กับพวกเราตลอดไป และทั้ง 33 คน มีความมุ่งมั่น มีพลัง อยากทำงานเพื่อกรุงเทพฯ และบ้านเมือง
การแก้ปัญหา กทม. ต้องไปแก้กฎหมายหลายเรื่อง จำเป็นที่จะต้องมี ส.ส. ทั้ง 33 คน เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้มีสิทธิ์สูดอากาศสะอาด ให้ลูกหลานมีโอกาสเรียนดีตั้งแต่อนุบาลถึงปริญญาตรี ได้เดินทางอย่างปลอดภัย ไม่ใช่สร้างถนนไม่เสร็จ หรือสร้างเสร็จก็พัง
ผมขอให้พี่น้องประชาชนให้โอกาส 33 เขต 33 คน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ คือ ประชาชน และประชาธิปัตย์พิสูจน์แล้วว่า เราคือพรรคที่เกิดมาเพื่อประชาธิปไตย และผมจะอยู่ที่นี่ อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนทุกเขตทุกคน” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
ด้าน นายองอาจ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ ที่ได้เปิดตัวผู้สมัคร 33 คน 33 เขต เพื่อเดินหน้าสู่ชัยชนะ ทุกคนมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณามาอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อมาเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชนทั้งกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ ยังมีอุดมการณ์ตามแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ในทุกอณูของร่างกาย ที่ประกอบด้วย 1. ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2. ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 3. ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต และที่สำคัญคือทุกคนยึดมั่นในหัวใจที่รับใช้ประชาชน เพราะรากฐานของประชาธิปัตย์คือประชาชน
พร้อมกันนี้ นายองอาจ ได้ให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ 33 คน 33 เขต ขึ้นเวที เพื่อแสดงเจตจำนง และความมุ่งมั่นเพื่อรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร อันประกอบด้วย
1. นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เขตพระนคร – ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ – ดุสิต
2. น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ (ตุ๋ย) เขตปทุมวัน - สาทร - บางรัก
3. นายอภิมุข ฉันทวานิช (ออม) เขตบางคอแหลม - ยานนาวา
4. เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง เขตคลองเตย – วัฒนา
5. นายธนา ชีรวินิจ เขตดินแดง – ห้วยขวาง
6. น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร (แนน) เขตพญาไท – ราชเทวี
7. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (เบศร์) เขตบางซื่อ – ดุสิต
8. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ(อี้) เขตลาดพร้าว
9. พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ(แต้ม) เขตหลักสี่ – จตุจักร
10. นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ (เชง) เขตดอนเมือง
11. นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (แพท) เขตสายไหม
12. น.ส.ปราณี เชื้อเกตุ เขตบางเขน
13. นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย (อุ๋ย) เขตบางกะปิ
14. นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (ไมเคิล) เขตบึงกุ่ม
15. นายสุนันท์ มีนมณี เขตมีนบุรี
16. น.ส.เกศกานดา อินช่วย (เกศ) เขตคลองสามวา
17. น.ส.ณัฐิดา เตาเฟ็ส (ดาด้า) เขตหนองจอก
18. นายสุพจน์ ฤกษ์ดี เขตลาดกระบัง
19. นายกิตพล เชิดชูกิจกุล เขตสะพานสูง ประเวศ
20. นายจักรวี วิสุทธิผล (แจ็ค) เขตสวนหลวง
21. นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เขตบางนา – พระโขนง
22. นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ เขตธนบุรี – คลองสาน
23. น.ส.สุภัสสรา ธงไชย (เปิ้ล) เขตจอมทอง
24. นายชยิน พึ่งสาย (โอ๋) เขตราษฏร์บูรณะ – ทุ่งครุ
25. นายสากล ม่วงศิริ เขตบางขุนเทียน
26. น.ส.วณิชชา ม่วงศิริ (เจี๊ยบ) เขตบางบอน – หนองแขม
27. นายวัชระ เพชรทอง (แจ็ค) เขตทวีวัฒนา-หนองแขม-ตลิ่งชัน
28. ดร.ฮารูน มูหมัดอาลี (จู) เขตบางแค
29. นายธนูชยานันท์ ปั้นบริสุทธิ เขตภาษีเจริญ – ตลิ่งชัน
30. ดร.สุรภา ประยงค์ระวิกูล (ยุ) เขตวังทองหลาง
31. นพ.พลวิทย์ เจริญพงศ์ (โนเกีย) เขตบางกอกน้อย ตลิ่งชัน
32. นายธีรวิทย์ ภูมิดิษฐ์ (วิทย์) เขตจตุจักร
33. นายชนินทร์ รุ่งแสง (แบง) เขตบางพลัด – บางกอกน้อย