เครือเนชั่น จัดสัมมนา อนาคตประเทศไทย : นวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ โดยในช่วงเปิดนโยบายพรรคการเมือง มีตัวแทนร่วมแสดงวิสัยทัศน์ที่จะผลักดัน "นวัตกรรมนำไทย เชื่อมโลก"
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูล และดิจิทัล พรรคก้าวไกล กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคมีอุดมการณ์สังคมนิยมประชาธิปไตยแต่ยึดมั่นในการแข่งขันตลาดเสรีเช่นกัน ถ้าให้พูดถึงนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะสรรค์สร้างอุตสาหกรรมใหม่ได้ในอนาคต คือ อุตสาหกรรมน้ำประปาสะอาด สร้างชีวิต สร้างงาน สร้างอนาคต
โดยนโยบายนี้จับต้องได้จริง จากการที่พรรคก้าวไกลลงไปทำงานกับคณะก้าวหน้า ที่เทศบาลตำบลอาดสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ประชากรราว 4,000 คน มีผู้ใช้น้ำนับตามหัวมิเตอร์ราว 1,400 มิเตอร์
ก่อนหน้านี้เทศบาลแห่งนี้มีน้ำประปาไม่เหมาะสมกับการอุปโภค บริโภค วันนี้จากการทำงานร่วมกับคณะก้าวหน้า เทศบาลแห่งนี้มีน้ำประปาสะอาดดื่มได้ ได้การรับรองจากกรมอนามัย ถามว่าทำอย่างไร นั่นคือ การเอานวัตกรรม เทคโนโลยี ยกระดับการผลิตให้แก่ประชาชน
นอกจากนี้พัฒนาระบบการจ่ายค่าน้ำออนไลน์ได้ด้วย และเป็นการลดต้นทุนเศรษฐกิจ โดยในส่วนนโยบายน้ำประปาสะอาดดื่มได้ เทศบาลตำบลอาดสามารถ พบว่า ลดค่าใช้จ่าย 1.4 ล้านบาท/ปี นี่เพียงแค่ 1 เทศบาล
ปัญหาสำคัญตอนนี้ในไทย คือ เรื่องสังคมสูงวัยที่อีก 20 ปีข้างหน้า ตน และประชาชนทางบ้าน ทุกคนในประชากรวัยทำงาน มีภาระหนักอึ้งดูแลคนชรา หรือเด็กเล็กที่อยู่นอกวัยทำงาน หากไม่เอานวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ พูดง่ายๆ ทำอย่างไรก็ตามให้คนวัยทำงาน สร้างมูลค่าเพิ่ม
ดังนั้น อยากถามทุกท่าน หลายพรรคการเมืองที่นำเสนอนโยบาย ปัญหาสำคัญที่ทำให้นวัตกรรมไม่สามารถขับเคลื่อนประเทศได้ คือ พอจะสร้างคนมีงานหรือไม่ ถามว่าจะทำให้มีงาน แล้วมีความต้องการได้หรือไม่ สิ่งนี้ทำให้ติดลูปอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง เราจะออกจากวัฏจักรเหล่านี้ได้อย่างไร