เทรนด์การลดน้ำหนักเป็นเทรนด์สุขภาพและความงามที่ทั้งคนไทยและต่างชาติให้ความสนใจและเป็นกระแสที่ดีมาโดยตลอด จนปัจจุบันมีมูลค่าตลาดกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นเซ็กเม้นท์ใหญ่ที่สุดในตลาดอาหารเสริมซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท จากความหอมหวานของตลาดที่น่าสนใจทำให้มีผู้เล่นทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าเข้ามาจับจองหวังกวาดยอดขายกันอย่างคึกคัก
หนึ่งในนั้นคือ โรงพยาบาลยันฮี คีย์เมกเกอร์คนสำคัญที่ส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มควบคุมน้ำหนัก “ยันฮี L-carnitine” ออกวางจำหน่ายเพื่อรองรับกลุ่มผู้บริโภคในระดับบนไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก “ยันฮี คอลลิน พลัส” (Yanhee callyn plus) เจาะตลาดแมสเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆมากขึ้น ด้วยจุดขายราคาที่จับต้องได้
นายแพทย์สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยันฮี และกรรมการบริษัท ยาอินไทย จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลยันฮีปล่อยผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสู่ท้องตลาด และได้ผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องกว่า 12 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในส่วนของสกินแคร์และอาหารเสริม ขณะเดียวกันยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรักสุขภาพที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ล่าสุดทีมแพทย์และนักวิจัยจากโรงพยาบาลยันฮี ได้พัฒนาอาหารเสริมตัวใหม่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยันฮี คอลลิน พลัส (Yanhee callyn plus) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก ที่คำนึงถึงคุณภาพ ความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จากสารสกัดเมล็ดมะม่วงแอฟริกัน (Afican Mango) นอกจากนี้ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทั้งในกลุ่มของอาหารเสริมและสกินแคร์ที่พร้อมจะออกสู่ตลาดอีกหลายรายการ
“ในอนาคตเราจะมีโปรดักส์ใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคและวิเคราะห์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อมองหานวัตกรรมหรือสารสกัดที่เหมาะสมในการนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ทั้งเครื่องสำอางและอาหารเสริม ตอนนี้เรามีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาสูตรสำเร็จเรียบร้อยแล้ว รอคิวออกสู่ตลาดจำนวนมาก แต่จะต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปิดตัวสินค้าเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและการตอบโจทย์ของตลาดในแต่ละช่วงเวลา”
ด้านนางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ ประธานกรรมการ บริษัท เอฟโวลูชั่น สกิน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการควบคุมน้ำหนักของคนเริ่มเปลี่ยนจากการใช้ยาลดน้ำหนักที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศทั้ง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งมีเทคโนโลยีทางด้านอาหารเสริมนำหน้าประเทศไทยไปหลายสิบปี
ทั้งนี้เอฟโวลูชั่น สกิน ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสกินแคร์ร่วมกับโรงพยาบาลยันฮี โดยนำวัตกรรมและสารสกัดใหม่ๆจากธรรมชาติจากต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกามาใช้พัฒนาโปรดักส์ เช่นในกลุ่มอาหารเสริมลดน้ำหนักที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงของปีนี้ โดยใช้สารสกัดจากเมล็ดมะม่วงแอฟริกัน พืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกามาวิจัยต่อยอดจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “ยันฮี คอลลิน พลัส”
“สำหรับ “ยันฮี คอลลิน พลัส”ได้รับการพัฒนาและปรับสูตรเพื่อเข้าถึงลูกค้าในหลายแพลตฟอร์มมากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้ทั้งในส่วนของ Tiktok และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ กลุ่มเป้าหมายของเราจะเป็นกลุ่มผู้หญิงและผู้ชายอายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นการลดอายุของกลุ่มเป้าหมายลงมาเล็กน้อยเพราะก่อนหน้านี้เราได้วางจำหน่าย “ยันฮี แอลคาร์นิทีน” ซึ่งฐานลูกค้าค่อนข้างมีอายุสูง เบื้องต้นเราตั้งเป้าหมายขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ให้ได้ 5 แสน- 1 ล้านคนภายในปีนี้ เพื่อเป็นการเปิดทางไปสู่การขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆของทางโรงพยาบาลยันฮีที่อยู่ในแผน”
สำหรับช่องทางจัดจำหน่ายจะเน้นการตลาดออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มเป็นหลัก เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยรวมถึงการดูแลหลังการขาย ทีมขายทั้งแอดมินและเทเลเซลล์ จะได้รับการเทรนนิ่งจากทีมอาจารย์หมอและเภสัชกรให้สามารถตอบคำถามและบริการลูกค้าเป็นรายบุคคลในลักษณะการขายแบบเป็นที่ปรึกษา เพื่อแนะนำให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการกินร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้เห็นผลลัพท์มากที่สุด ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายยอมรับว่าปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายเพียง 100 ราย เนื่องจากต้องการจำกัดจำนวนตัวแทนจำหน่ายให้ได้คนที่มีคุณภาพมีความความเข้าใจสินค้าสามารถถ่ายทอดข้อมูลของผลิตภัณฑ์ไปถึงมือผู้บริโภคได้ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะขยายตลาดไปต่างประเทศโดยเริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านในอนาคตอันใกล้ด้วย
“ปัจจุบัน Platform Online Marketing ของผลิตภัณฑ์ในเครือโรงพยาบาลยันฮีเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้า และการได้รับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางโดยตรงตลอดการใช้ผลิตภัณฑ์ จึงกลายเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจและมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลยันฮี และเชื่อว่า ยันฮี คอลลิน พลัส จะเป็นอาหารเสริมควบคุมน้ำหนักที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุดด้วย”