ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์
เปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นตามโครงการจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาและเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประกันภัยปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) เป็น Digital Insurance ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ (Grand Richmond Hotel) จังหวัดนนทบุรี
ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้ เป็นการนำเสนอผลการศึกษาโดยอาจารย์พฤทธิพร นครชัย จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของที่ปรึกษาศศินทร์ฯ แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ
ด้านที่ 1 การกำกับดูแล เสนอแนะให้กำกับดูแลให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมมีสภาพแวดล้อมที่สามารถแข่งขันได้เท่าเทียมกัน อาทิ การเปิดเสรีให้มีการแข่งขันกับต่างประเทศ หรือการแข่งขันระหว่างบริษัทประกันภัยดิจิทัล และบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิม เช่น การขออนุมัติหรือการมี Fast Track ในการทดสอบผลิตภัณฑ์ และควรดึงดูดบริษัทประกันภัยต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศ
รวมทั้งควรเพิ่มความยืดหยุ่นในการกำกับดูแลเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของธุรกิจและนวัตกรรมดิจิทัลในอนาคต โดยเสนอแนะให้สำนักงานฯ เร่งดำเนินการตามแผนการปรับการกำกับดูแล ให้เป็น Principle หรือ Objective Based มากขึ้น เช่น การกำกับดูแลแบบ Portfolio ตามระดับชั้นของความสามารถความเสี่ยงและความเข้มแข็งทางการเงินรวมทั้งขั้นตอนการอนุมัติผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเน้นความเสถียรของระบบและความปลอดภัยมากกว่ารายละเอียดปลีกย่อย
ด้านที่ 2 แนวทางการส่งเสริมดิจิทัล อาทิเช่น ส่งเสริมให้มีผู้บริหารด้านดิจิทัลของบริษัทประกันภัยมาจากอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยแนวทางควรเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในด้านเทคนิครวมถึง Mindset ของตลาดและการดำเนินธุรกิจดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งควรมีการสร้าง Platform กลาง ที่บริษัทประกันภัยสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น TFRS17 ที่มีการลงทุนสูง เป็นต้น
“การสัมมนาครั้งนี้นอกจากเป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประกันภัยไทยแล้ว ยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการธุรกิจประกันภัยในมิติต่าง ๆ และการพัฒนาองค์กรให้สามารถเผชิญกับบริบทของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที โดยจากการแสดงความคิดเห็น มีข้อเสนอแนะในทิศทางที่สอดคล้องกันคือ เห็นความสำคัญที่บริษัทประกันภัยจะต้องปรับเปลี่ยนองค์กรเป็น Digital โดยควรมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทุกกระบวนงานของระบบประกันภัย (End-to-End Process) และควรต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเรื่อง IT Security"
สำหรับประเด็นที่เกี่ยวกับจำนวนของผู้ประกอบการในธุรกิจประกันภัยที่เหมาะสม ผู้เข้าร่วมงานสัมมนาเห็นว่าควรต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการผูกขาด และการแข่งขันในธุรกิจ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้เสียผลประโยชน์ และสำนักงาน คปภ. ควรมีการกำกับดูแลที่เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ที่มาจากกลุ่ม Start-up เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ร่วมสัมมนาเห็นตรงกันว่าการควบรวมกิจการของบริษัทประกันภัย เป็นปัจจัยที่จะสร้างจุดแข็งให้กับบริษัทในการ Transform เป็น Digital Insurer เป็นต้น
ทั้งนี้ทีมที่ปรึกษาโครงการจะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมสัมมนาไปเพิ่มเติมและปรับปรุงผลการศึกษาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อจะได้ใช้เป็นแนวทางในการกำกับดูแลให้อุตสาหกรรมประกันภัยก้าวสู่การเป็น Digital Insurance อย่างแท้จริง และเกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย