ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 4-8 ก.ค.2565 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 35.00-36.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์เงินทุนต่างชาติ และตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของไทย
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP และดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย.
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย รวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย. ของจีน ยุโรป และอังกฤษ และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค.ของยุโรปด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมาเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (24 มิ.ย.) ขณะที่ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย.-1 ก.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,495 ล้านบาท
ขณะที่มีสถานะเป็น NET INFLOW เข้าสู่ตลาดพันธบัตร 62.2 ล้านบาท (โดยแม้ต่างชาติจะซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 482.2 ล้านบาท แต่ก็มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 420 ล้านบาท)