‘บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN’ ประกาศความสำเร็จการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 วงเงินไม่เกิน 525 ล้านบาท อายุ 2 ปี เพื่อนำเงินไปไถ่ถอนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนนี้ หลังนักลงทุนสถาบันให้การตอบรับซื้อหุ้นกู้เป็นอย่างดีสะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานการดำเนินธุรกิจและศักยภาพในการสร้างการเติบโตจากแผนขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ Global Content Commerce Company
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนวันครบกำหนดหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 วงเงินไม่เกิน 525 ล้านบาท อายุ 2 ปี มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ 7% และครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2568 โดยกำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ให้แก่นักลงทุนสถาบันและหรือนักลงทุนรายใหญ่ เพื่อนำเงินที่ได้มาไถ่ถอนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายน 2566 จำนวน 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ
ความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้ของ JKN เพราะมั่นใจในพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่มี Ecosystem ช่วยสนับสนุนศักยภาพการดำเนินงานสร้างการเติบโตให้แก่กลุ่ม JKN ให้เป็นไปตามแผน ภายหลังเป็นเจ้าของธุรกิจองค์กรมิสยูนิเวิร์ส หรือ MUO ซึ่งเป็น New S Curve ของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ Global Content Commerce Company ซึ่งปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ MUO ได้รับการชำระเงินจากการดำเนินงานตามแผนโครงสร้างรายได้ 9 ด้านแล้ว จึงมั่นใจจะทำรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 1,100 ล้านบาท ไม่นับรวมแผนงานในอนาคตจากการนำแบรนด์มิสยูนิเวิร์ส ที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลกเพื่อต่อยอดเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่กลุ่มธุรกิจ Commerce ในหลากหลายผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ช่วยสร้างการเติบโตที่ดีต่อไป
ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Content ซึ่ง JKN เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารลิขสิทธิ์คอนเทนต์และข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันจากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังระดับโลกในรูปแบบ Output Deal ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเพื่อจำหน่ายให้แก่คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ทำให้กลุ่มธุรกิจ Content มีศักยภาพเติบโตสูง และมีความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าปีนี้จะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยเป้ารายได้รวม 3,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80%