ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์ถัดไป (7-11 ส.ค.) กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ที่ระดับ 34.20-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (27 ก.ค.)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-4 ส.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 7,790 ล้านบาท และมีสถานะ Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 23,910 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 16,687 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 7,223 ล้านบาท)
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,515 และ 1,485 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,545 และ 1,560 จุด ตามลำดับ ในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,530.46 จุด ลดลง 0.83% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 51,769.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.07% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.01% มาปิดที่ระดับ 461.31 จุด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศและผลประกอบการไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ
ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/66 ของอังกฤษ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค. ของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ค. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต