กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดสัมนา บุกตลาดการค้าเสรี แบบรักษ์โลก ด้วยสินค้า BCG โลกการค้านั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และปัจจุบันการเปลี่ยน แปลงยิ่งมีความรวดเร็วขขึ้นกว่าเดิม ทั้งด้วยเทคโนโลยี สภาพแวดล้อม ความรวดเร็วของ ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งล้วนแต่ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทั้งวิถีชีวิต การ ทํางาน เป้าหมายและมุมมองต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้บางเรื่องไม่ใช่การเปลี่ยน แค่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่เป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระยะยาวที่จะนําไปสู่เทรนด์ ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคมและธุรกิจอีกด้วย
โดย นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยว่า หลังการระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลไทยเองก็ได้ตระหนักถึงความสําคัญของกระแสการ เปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน จึงได้ประกาศให้ โมเดลเศรษฐกิจบีซีจี หรือ BCG Economy Model ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ปี 2564 - 2569 กําหนดขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยแบบใหม่ ที่มีการนําวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามายกระดับเพื่อการแข่งขัน และสร้างรายได้ให้มากขึ้น โดย BCG ซึ่ง มาจากคําว่า Bio -Circular และ Green Economy ตามลําดับนี้ จะทําให้เราได้ต่อยอดทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเรา
อีกทั้งเทคโนโลยีจะช่วยให้เกิดการพัฒนา ผลผลิตทางเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น มีการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด มีการหมุนเวียน ใช้ซ้ำนํากลับมาใช้ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดของเหลือทิ้งในทุกกระบวนการ ผลิต ลดปริมาณของเสียให้เป็นศูนย์ หรือ Zero Waste และยังรวมถึงการใส่ใจ ด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนอีกด้วย
“ การจัดสัมมนานี้ เน้นประเด็นหลัก ในสองเรื่อง ดังนี้
1. เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ สมาชิกสหกรณ์ วิสาหกิจ ชุมชน รวมถึงผู้สนใจทั่วไป ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เตรียมพร้อม และเกิดการ ปรับตัวเข้าสู่โมเดล เศรษฐกิจบีซีจี ซึ่งจะทําให้ท่านก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของ ตลาดโลก
2. เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเจรจาจัดทําเอฟทีเอ และ การใช้สิทธิ ประโยชน์จากเอฟทีเอที่กรมได้เจรจาในกรอบเวทีต่าง ๆ ” นางสาวบุณิกา กล่าว
ซึ่งปัจจุบันนี้ไทยมีความตกลงการค้าเสรีทั้งหมด 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ โดยมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นความตกลงการค้า ฉบับล่าสุด นอกจากนั้น กรมฯ ยังมีการเจรจาความตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าสําคัญ อย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุนเพิ่มเติม รวมถึงการเจรจา เพื่อยกระดับและปรับปรุงความ ตกลงเดิม และการเปิดการเจรจาใหม่ อาทิ ความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพ ยุโรป ความตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคม การค้าเสรียุโรป (EFTA) และการสัมมนาในวันนี้ กรมได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งท่านมีความ เชี่ยวชาญด้านการตลาด และการทําธุรกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ และเรื่องการใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอเพื่อ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สอดรับกับการค้ายุคใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมรับมือกับการแข่งขันในตลาดโลก สามารถ ปรับตัวตามความต้องการของตลาด และ สามารถแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่ปัจจุบัน มีความท้าทายอย่างมาก ให้ประสบความสําเร็จ นางสาวบุณิกา กล่าวปิดท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ….
- Facebook : กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
- FTA center: 025077555
สอบถ 29/08/65 กรุงเทพฯ
กระทรวงพาณิชย์เปิดสัมมนา “บุกตลาดการค้าเสรี แบบรักษ์โลก ด้วยสินค้า BCG”
โลกการค้านั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และปัจจุบันการเปลี่ยน แปลงยิ่งมีความรวดเร็วขขึ้นกว่าเดิม ทั้งด้วยเทคโนโลยี สภาพแวดล้อม ความรวดเร็วของ ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งล้วนแต่ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทั้งวิถีชีวิต การ ทํางาน เป้าหมายและมุมมองต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้บางเรื่องไม่ใช่การเปลี่ยน แค่ในระยะสั้นเท่านั้น แต่เป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระยะยาวที่จะนําไปสู่เทรนด์ ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคมและธุรกิจอีกด้วย
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดี กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยว่า หลังการระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลไทยเองก็ได้ตระหนักถึงความสําคัญของกระแสการ เปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน จึงได้ประกาศให้ โมเดลเศรษฐกิจบีซีจี หรือ BCG Economy Model ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ปี 2564 - 2569 กําหนดขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วย รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยแบบใหม่ ที่มีการนําวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้ามายกระดับเพื่อการแข่งขัน และสร้างรายได้ให้มากขึ้น โดย BCG ซึ่ง มาจากคําว่า Bio -Circular และ Green Economy ตามลําดับนี้ จะทําให้เราได้ต่อยอดทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของเรา
อีกทั้งเทคโนโลยีจะช่วยให้เกิดการพัฒนา ผลผลิตทางเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น มีการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด มีการหมุนเวียน ใช้ซ้ำนํากลับมาใช้ใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดของเหลือทิ้งในทุกกระบวนการ ผลิต ลดปริมาณของเสียให้เป็นศูนย์ หรือ Zero Waste และยังรวมถึงการใส่ใจ ด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนอีกด้วย
“ การจัดสัมมนานี้ เน้นประเด็นหลัก ในสองเรื่อง ดังนี้
1. เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ สมาชิกสหกรณ์ วิสาหกิจ ชุมชน รวมถึงผู้สนใจทั่วไป ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เตรียมพร้อม และเกิดการ ปรับตัวเข้าสู่โมเดล เศรษฐกิจบีซีจี ซึ่งจะทําให้ท่านก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของ ตลาดโลก
2. เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเจรจาจัดทําเอฟทีเอ และ การใช้สิทธิ ประโยชน์จากเอฟทีเอที่กรมได้เจรจาในกรอบเวทีต่าง ๆ ” นางสาวบุณิกา กล่าว
ซึ่งปัจจุบันนี้ไทยมีความตกลงการค้าเสรีทั้งหมด 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ โดยมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เป็นความตกลงการค้า ฉบับล่าสุด นอกจากนั้น กรมฯ ยังมีการเจรจาความตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าสําคัญ อย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดตลาดสินค้า บริการ และการลงทุนเพิ่มเติม รวมถึงการเจรจา เพื่อยกระดับและปรับปรุงความ ตกลงเดิม และการเปิดการเจรจาใหม่ อาทิ
ความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพ ยุโรป ความตกลงการค้าเสรีไทย-สมาคม การค้าเสรียุโรป (EFTA)
และการสัมมนาในวันนี้ กรมได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งท่านมีความ เชี่ยวชาญด้านการตลาด และการทําธุรกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ และเรื่องการใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอเพื่อ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้สอดรับกับการค้ายุคใหม่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมรับมือกับการแข่งขันในตลาดโลก สามารถ ปรับตัวตามความต้องการของตลาด และ สามารถแสวงหาโอกาสทางธุรกิจที่ปัจจุบัน มีความท้าทายอย่างมาก ให้ประสบความสําเร็จ นางสาวบุณิกา กล่าวปิดท้าย
………..